บทวิเคราะห์

ย้อนกลับ

บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 14 ต.ค. 58

Resistance   

1175

1177

1180

 

 Support

1171

1167

1163

 

 

Strategy

ปัจจุบันราคาได้ขึ้นมาจนถึงแนวต้านสำคัญบริเวณ 1170 แล้วซึ่งบริเวณนี้มองว่า ติดตามว่าจะกลับตัวลงมาไหมเนื่องจากเป็นโซนของแนวต้านสำคัญเรียบร้อยประกอบกับภาพรายชั่วโมงที่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและเริ่มออกอาการอ่อนแรง ไม่ควรจะมีสถานะซื้อตอนนี้ ระวังการปรับตัวลดลง ทั้งนี้การปรับตัวลดลงยังมองไว้ที่ระดับเดิมคือ 1150 ซึ่งเป็นกรอบสามเหลี่ยมตามรูป หากไม่หลุดคิดว่า ในอนาคตน่าจะปรับตัวเกินกว่าระดับ 1170 อีกครั้ง แต่คาดว่ายังไม่ใช่ตอนนี้

 

 ทางเลือกรอง : หากราคายังไม่หยุดจริงๆ ก็จะยังขึ้นต่อไป และผ่าน 1180 ขึ้นไป ยังคงแนะนำให้ใช้ความระมัดระวังเช่นเดิมหากราคายังพยายามขึ้นไปต่อ ยังอยากเห็นราคาพักตัวลงมาก่อน

 

USD/THB

 

 มีข่าวในประเทศเรื่องการยืนยันการคงภาษีนิติบุคคลไว้ที่ 20% เป็นการถาวรจากนโยบายตอนแรกที่จะสิ้นสุดในปีนี้นอกจากนี้ยังปรับลดภาษีให้กับบริษัท Venture capital เพื่อกระตุ้นการลงทุน ส่วนตลาดหุ้นไทยเริ่มได้รับแรงกดดันจากตัวเลขจีนที่ต่างออกมาแย่กว่าคาดการณ์ทั้งหมด ส่วนกระแสเงินทุนต่างชาติเริ่มขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย และ หันกลับมา Short สุทธิในฟิวเจอร์เล็กน้อย ส่วนเงินบาทมองรีบาวน์อ่อนค่าแนวต้าน 35.80

 

US

 

- FED governor คุณ Daniel Tarullo ซึ่งปกติท่านนี้จะไม่ค่อยออกมาให้ความเห็นเท่าไร ได้ออกมาเตือนเป็นคนที่ 2 ประมาณว่า FED ยังไม่ควรจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับคุณ Lael Brainard ที่กล่าวว่า ควรจะคงอัตราดอกเบี้ยไปก่อนจนกว่าความผันผวนของเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลกจะบรรเทาลง

- ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงเป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการ ส่วนหนึ่งมาจากการรายงานผลกำไรของ Goldman sachs ที่รายได้ลดลง –6.4% ส่วนดาวโจนส์หมวดขนส่งปรับตัวลดลงแรง –2.2% ซึ่งตัวนี้ใช้ติดตามกลุ่มบริษัทขนส่ง มองว่าหากกิจกรรมทางเศรษฐกิจดีขึ้นหุ้นกลุ่มขนส่งจะต้องดีขึ้นด้วย ซึ่งควรจะขึ้นพร้อมดาวโจนส์ปกติหากเวลาที่ดัชนีขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

 

EU

 

- ตัวเลข ZEW economics ที่เป็นตัว Leading indicator ของเศรษฐกิจยุโรป ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 55.2 จุด จากเดือนก่อนหน้า 67.5 จุด ส่วน ZEW ของเยอรมันพบว่า ปรับตัวลดลงแรงสู่ระดับ 1.9 จุดจากเดิม 12.1 จุด นอกจากนี้สถาบัน ZEW ยังให้ความเห็นว่า เรื่องการโกงการปล่อยตัวเลขไอเสียของ Volkswagen และการชะลอตัวของเศรษฐกิจกลุ่ม Emerging market ได้กดดันการเติบโตของเยอรมันค่อนข้างมากแต่คาดว่าจะยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย นอกจากนี้กลุ่มสินค้าแบรนเนมต่างปรับตัวลดลงหมด

 

 

ASIA

 

- ตัวเลขเงินเฟ้อของจีนขยายตัวระดับ 1.6% หลังจากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 2% และคาดการณ์ 1.8% ส่วน PPI หดตัว –5.9% เป็นเดือนที่ 43 ติดต่อกัน จึงมีความเห็นว่า เศรษฐกิจจีนในช่วงนี้ไม่ได้มีเสถียรภาพเลย จากทั้ง Domestic demand และ External demand ที่ต่างปรับตัวลดลงทั้งหมด นอกจากนี้ยังซ้ำเติมด้วยการปรับตัวลดลงของสินค้ากลุ่มคอมโมดิตี ทาให้เงินเฟ้อยิ่งน้อยลงเข้าไปอีก ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวลดลงกันหมด

 

COMMODITIES

 

-ค่า Discount ของทองคำแท่งในอินเดียปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนจากความต้องการทองคำแท่งที่ปรับตัวลดลงทั้งเอเชีย

- มีรายงานจาก EIA ว่าความต้องการน้ำมันดิบในปีหน้าจะลดลง (สวนทางกับที่ OPEC เปิดเผยก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น)