ย้อนกลับ
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 7 ต.ค. 58
แนวทางทองคำวันที่ 7-10-58
เเนวรับ 1143 1140 1133 เเนวต้าน 1150 1154 1160
จากราคาที่ขึ้นมาเมื่อวานมองว่า ราคาเริ่มขยับตัวเข้าใกล้แนวต้าน 1150-1154 แล้ว และได้เกิด Bearish divergent ขึ้นในรายชั่วโมง ถึงแม้จะยังไม่ยืนยันแต่ก็เป็นสัญญาณเตือนทางฝั่งลง ระยะสั้นมีสองทางเลือกคือ ราคาพยายามขึ้นไปก่อน ประเมินแนวต้านไว้ที่ระดับ 1150-1154 ซึ่งเป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับการผิดสถานะ ซื้อ ส่วนในทางกลับกันซึ่งให้น้ำหนักมากกว่า คือ ฝั่งลงมากก่อน พักฐานบริเวณ 1140 ทั้งนี้การลงในรอบนี้ยังมองไม่เห็นว่าจะลึกมากนัก ภาพรวมยังเป็นน้ำหนักในทางบวกอยู่ แต่เนื่องจากปัจจัยข่าวที่น้อย ยังอยากให้เป็นการเปิดสถานะภายในวัน—สองวันไม่อยากให้ถือนาน เพราะ ยังมองการแกว่งตัววนไปวนมาในกรอบใหญ่อยู่ยังไม่มีทิศทางชัดเจน
ต่างชาติหันกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเล็กน้อย หลัก 1200 ล้านบาท และยังหันมา Long สุทธิหลัก 10000 สัญญาเป็นวันที่ 2 ต่อเนื่องกัน เป็นการเพิ่มสถานะที่ค่อนข้างมาก แสดงให้เห็นถึงทิศทางของต่างชาติที่สนใจตลาดหุ้นมากขึ้น และมองว่า ตลาดหุ้นช่วงนี้จะได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่รีบาวน์ขึ้นแรงเกือบทั้งหมดท่ามกลางปัจจัยในประเทศ นักวิเคราะห์เริ่มปรับเป็นแนวต้าน 1400 ส่วนทิศทางค่าเงินบาทมองการแข็งค่าลงมาในระยะกลางแล้ว คาดว่าจะลงมาต่ำกว่า 36.00
ทางเลือกหลัก : มองราคาเริ่มปรับตัวลดลงเล็กน้อยแนวรับ 1140 ขณะที่แนวต้านบริเวณ 1150-1154
ทางเลือกรอง :
รายละเอียด
- ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจของอเมริกาไล่มาตั้งแต่ NFP จนถึง PMI ล้วนแล้วแต่หดตัวลงในเดือนนี้ เป็นผลทำให้นักลงทุนยังตีความเรื่อง การขึ้นดอกเบี้ยช้ากว่ากำหนด รวมทั้งสถานการณ์ความไม่สงบระหว่างรัสเซียกับตุรกีและซีเรียยังคงเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิด Safe-haven bid ในทองคำ นักวิเคราะห์ประเมินว่า สถานการณ์ความไม่สงบดังกล่าวจะมีอยู่เพียงแปปเดียว (Short-lived) และตลาดจะกลับมาให้ความสนใจกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของ FED แทน
- ตัวเลขดุลการค้าของอเมริกาเมื่อวานนี้ขาดดุล 4.83 หมื่นล้านดอลลาร์ ขาดดุลมากกว่าเดือนที่แล้วเล็กน้อย บ่งบอกให้เห็นถึงการส่งออกของอเมริกาที่น้อยกว่าการนำเข้า
- ตลาดน้ำมันดิบเริ่มกลับมาน่าสนใจอีกครั้งหลังจากเมื่อวานนี้ราคาหลุดออกจากกลุ่มที่ทรงตัวมานาน (Consolidate) และปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น4.5% (ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน) หลังจากคาดการณ์ว่าในปีหน้าจะมี Supply ออกมาน้อยลงพร้อมทั้งมีการเจรจาระหว่างรัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย และ ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อื่นๆ ซึ่งตลาดติดตามว่าจะมีการเคลื่อนไหวบางอย่าง ส่วนประมาณการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในปีหน้านั้นกลับปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากจำนวนแท่นขุดเจาะ (Rigs) ที่ปรับตัวลดลงกว่า 26 หลุม และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง รวมถึงได้เห็น Bullish divergent ในรายสัปดาห์ของน้ำมันดิบด้วย
- IMF ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกลงให้น้ำหนักทางฝั่ง Downside risk ที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนก่อนๆหน้าซึ่งมีประเด็นหลักจากการชะลอตัวของจีน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อ่อนแอ และ การชะลอตัวของกลุ่มประเทศ Emerging market ตัวเลขออกมาที่ระดับ 3.3% ลดลงจากประมาณการณ์ไว้ในเดือน กรกฎาคมที่ 3.1% (ลดลง 0.2%) ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ World bank ที่ออกมาลดประมาณการณ์
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น 5 วันติดต่อกัน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดใน 5 วันมากสุดในรอบ 4 ปี หลังจากนักลงทุนติดตามผลการประชุม BOJ และตัวเลขกำไรของ Samsung ที่ออกมา Top estimate นอกจากนี้ความกังวลในเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยของอเมริกาที่ลดลง
- มีข่าวว่าเม็ดเงินของจีนไหลไปยังตลาดบ้านของอเมริกามากขึ้นและกลายเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ของอเมริกา