ย้อนกลับ
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 6 ต.ค. 58
แนวทางทองคำวันที่ 6-10-58
เเนวรับ 1132 1129 1125 เเนวต้าน 1140 1145 1150
ภาพรวมตลาดยังคงแกว่งตัวในกรอบสามเหลี่ยม โดยน้ำหนักในฝั่งบวกมากกว่า ในระยะสั้นมองว่า หลังจากที่ราคาแกว่งตัวไปมาพักตัวอยู่ตรงนี้นั้นราคามีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นต่อแล้ว แต่การปรับตัวนั้นต้องเกินกว่า 1140 จึงจะยืนยันการขึ้นไปทดสอบแนวต้านสุดท้ายที่บริเวณ 1150 + - บริเวณนั้น ในทางกลับกันแนวรับ 1130 ก็เป็นแนวรับระยะสั้นที่มองว่าไม่ควรหลุด วันนี้จึงมีสองทางเลือกคือ ราคาปรับตัวเกินกว่า 1140 จึงจะขึ้นต่อ หรือ ราคาปรับลดลงเกินกว่า 1130 จึงมองว่าเริ่มลง สาเหตุที่มองเป็นสองทางเนื่องจากราคาแกว่งตัวเป็นกรอบสี่เหลีย่มสั้นๆบริเวณ $10 นี้และคาดว่าด้วยข่าวที่น้อยจึงต้องอาศัยการแกว่งตัวไปอีกสักพักหนึ่งโดยมีฝั่งขึ้นได้เปรียบกว่า
ทิศทางต่างชาติในตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ค่อน้ขางเบาบาง แต่หันกลับมา Long สุทธิในฟิวเจอร์ค่อนข้างมากถึงระดับ 15000 สัญญา ตลาดหุ้นไทยรีบาวน์ไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นทั่วโลกโดยได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ชะลอการขึ้นดอกเบี้ยของอเมริกาหลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวลดลงในวันศุกร์ที่ผ่านมา ยังให้น้ำหนักการปรับตัวขึ้นต่อตามตลาดหุ้นโลก ส่วนทิศทางค่าเงินบาทมองว่า เริ่มแข็งลงมาแล้ว และเมื่อวานหลุดแนวรับ ลงมาทดสอบ 35.20 มองอ่อนเล็กน้อยก่อนแข็งต่อ
ทางเลือกหลัก : ยังมองราคาแกว่งตัวในกรอบ 1130-1140 ซึ่งระยะสั้นมองขึ้นไปทดสอบ 1140 ก่อน ลองดูว่าจะผ่านหรือไม่ หากผ่านจะเปิดทางไป 1150 + -
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1130 ลงมามองว่าฝั่งขึ้นเริ่มเสียความได้เปรียบไป
รายละเอียด
- ตัวเลข ISM-PMI ภาคบริการออกมาปรับตัวลดลงสู่ระดับ 56.9 จากเดือนก่อนหน้า 59 และคาดการณ์ 58 เป็นการปรับตัวลดลงเดือนที่ 3 ต่อเนื่องกัน และเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ ISM-PMI ภาคการผลิตที่ปรับตัวลดลง 5 เดือนติดต่อกัน เป็นมุมมองทางบวกต่อเนื่องสำหรับทองคำ เนื่องจากกลุ่มตัวเลข PMI ของอเมริกาปรับตัวลดลงกันเกือบทั้งหมด และตัวเลข NFP ก็ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน นำไปสู่การคาดการณ์กันอย่างเยอะว่า ดอกเบี้ยมีแนวโน้มจะชะลอการขึ้นต่อไปอีก และส่งผลให้ตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มประเทศเอเชียที่ปรับตัวขึ้นแรง
- กองทุน SPDR ขายทองคำออกเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ 0.03% สู่ระดับ 688.98 ตัน ซึ่งเป็นการลดสถานะครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์หลังจากมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งมองว่าเป็นการทยอยปรับลดสถานะหลังจากราคาปรับตัวขึ้นแรงในวันศุกร์ซึ่งเป็นกาปรับตัวขึ้นแรง 2.2% ภายในวันเดียว และแรงที่สุดนับจากเดือนมกราคม
- ประธาน FED สาขา Boston กล่าวว่า ตัวเลขแรงงานที่ออกมาในเดือนกันยายนนั้นเป็น Weak job report ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในอนาคต และอาจจะมีแนวโน้มเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ย
- พรุ่งนี้จะมีการแลถงการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) หลังจากมีการประชุมต่อเนื่องมาจากวันนี้ นักวิเคราะห์จาก Goldman sachs ประเมินว่า น่าจะได้เห็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมอีก ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ ซึ่งประเมินว่าเป็น Base-case ของท่านนี้ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่ออกมาในช่วงสัปดาห์ก่อนค่อนข้างแย่ ไม่ว่าจะเป็นผลผลิตภาคอุตสาหกรรม หรือ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ และมองว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นมีแนวโน้มจะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค ( GDP ติดลบสองไตรมาสติดต่อกัน)
- ความเห็นจากประธาน FED ท่านก่อน นาย เบน เบอนันเก้ ออกมากล่าวว่า ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องขึ้นดอกเบี้ยไว เพราะ นโยบายปัจจุบันมองว่ายังไม่ได้ผ่อนคลายทางการเงินจนเกินไป อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ระดับต่ำ และ ระดับการจ้างงานเต็มที่นั้นก็พึ่งจะเกิดเอง
- ธนาคารโลกปรับลดการเติบโตของเอเชียแปซิฟิกลงเล็กน้อยเป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ตกต่ำลงในช่วงที่ผ่านมาสร้างความกดดันแก่ประเทศในกลุ่มเอเชีย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Trade balance -47.6B -41.9B