ย้อนกลับ
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 29 ก.ย. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 29-9-58
เเนวรับ 1127 1122 1119 เเนวต้าน 1136 1140 1144
เมื่อวานราคาตกลงมายังแนวรับโซน 1130 นี้ มองว่า เป็นจุดแนวรับ Uptrend ระยะสั้น หากหลุดลงไปมีแนวโน้มเริ่มลงไปยังแนวรับ 1119 ในระยะกลาง และ ฝั่งขึ้นที่เคยมองว่าได้เปรียบนั้นจะต้องชะลอตัวลง สำหรับในระยะสั้นมองการปรับตัวขึ้นไปก่อนเล็กน้อยบริเวณ 1133-1136 โซนนั้นหากยืนได้ยังมองการขึ้นกลับไปสร้าง New-high ที่บริเวณเกินกว่า 1150 แต่หากยืนไม่ไดและหลุดโซน 1130 ลงมามองว่า ต้องตัดขาดทุนออกมาดูตลาดก่อน ภาพรวมข่าวยังค่อนข้างผสมกัน จาก Official comment ของแต่ละท่านที่ยังออกมาไม่ตรงกัน แต่ด้วยมุมมองการปรับฐานของตลาดหุ้นพร้อมกับ แรงซื้อที่เข้ามาบ้างในช่วงที่ผ่านมา จึงยังมองว่ามีปัจจัยสนับสนุนทองคำอยู่
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2088 ล้านบาท และยังคง Short สุทธิต่อเนื่องในฟิวเจอร์อีก 4782 สัญญา เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงแรงกว่า 20 จุด หลังจากมีการประกาศตัวเลขการส่งออกดีออกมาแย่กว่าคาดการณ์ค่อนข้างมาก เป็นตัวกดดัน และตัวนี้เป็นตัวกดดันค่าเงินบาทเพิ่มเติมหลังจากทิศทางค่าเงินของภูมิภาคถูกกดดันจากประเทศมาเลเซียที่เงินริงกิตอ่อนค่าแรง ล่าสุดเงินบาททำ new-high ในรอบ 6 ปี ถึงแม้กราฟจะแสดงให้เห็นถึง Overbought แต่ปัจจัยพื้นฐานยังไม่เอื้อต่อการแข็งค่าแรง
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นกลับไปทดสอบ 1133-1136 อีกครั้งหนึ่ง ต้องลุ้นให้ยืนให้ได้สำหรับฝั่งขาขึ้น
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ทองคำปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของ FED หลังจากมีความเห็น (Official comment ) ของประธานสาขาต่างๆ เริ่มจาก สาขานิวยอร์ค คุณ William Dudley และ สาขา San Francisco คุณ John Williams กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มจะปรับตัวเพิ่มขึ้นภายในปีนี้ และคาดว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวเข้าสู่ระดับ 2% ในระยะกลาง แต่ฝั่ง คุณ Charles Evans ประธานสาขาชิคคาโก ได้ให้ความเห็นทางฝั่ง Dovish และมองอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ระดับต่ำเช่นนี้ไปจนถึงกลางปี 2016 ส่งผลให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวนไปตามทิศทางของคอมเมนต์ต่างๆ
- ตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อวานนี้รวมถึงเช้าวันนี้กลับเข้าสู่ทิศทางเดิมคือ ลงอีกครั้ง หลังจากความกังวลเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะกลุ่ม Emerging market เป็นสำคัญ ทั้งนี้เมื่อวานนี้กระแสเงินทุนกลับไม่เข้ามายังทองคำเท่าไรนัก ท่ามกลางการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้น
- ตัวเลขเงินเฟ้อที่ FED ใช้ประเมิน หรือ Core PCE ทรงตัวที่ระดับ 0.1% เท่ากับเดือนก่อนหน้าและคาดการณ์ ส่วนการใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% เท่ากับเดือนก่อนหน้าและมากกว่าคาดการณ์ที่ 0.3% ฝั่งรายได้ผู้บริโภคปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.3% จากเดือนก่อนหน้า 0.5% และคาดการณ์ 0.4% อีกข่าวหนึ่งคือ ตัวเลขยอดบ้านรอปิดการขายหดตัว –1.4% จากเดือนก่อนหน้า 0.5% และคาดการณ์ 0.4% สวนทางกับตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ที่ยังปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ข้อมูลของจีนเมื่อวานนี้พบว่า กำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนปรับตัวลดลงแรง -8.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จึงทำให้ทิศทางตลาดหุ้นจีนไม่สดใสเท่าไรนัก ส่วนญี่ปุ่น นาย คุโรดะ ยืนยันว่า BOJ พร้อมที่จะขยายวงเงิน QQE เพิ่มหากอัตราเงินเฟ้อยังไม่กระเตื้องถึง2% ล่าสุดเงินเฟ้อของญี่ปุ่นยังอยู่ระดับแถว 0%
- ธปท เปิดเผยตัวเลขส่งออกเมื่อวานนี้พบว่า ยอดส่งออกหดตัว –6.7% นำโดยการหดตัวของสินค้าเกษตร และ ตัวเลขการนำเข้าห็หดตัวแรงเช่นกัน ส่งผลให้เงินการค้าเกินดุลอยู่ ซึ่งถึงแม้จะเกินดุลแต่ก็ไม่ได้ดีเท่าไรนัก ตัวนี้เป็นตัวกดดันเงินบาทให้อ่อนค่าไวขึ้น และยังโดนซ้ำจากกรณีของมาเลเซียที่เงินริงกิตอ่อนไปจนระดับใกล้ปี 2540 จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ชะลอตัวลงเยอะ และ ปัญหาเรื่องเสถียรภาพของการเมือง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21.00 USD
CB Consumer confidence 96.2 101.5