ย้อนกลับ
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 15 ก.ย. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 15-9-58
เเนวรับ 1104 1100 1095 เเนวต้าน 1112 1118 1125
ราคายังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ แนวรับแนวต้านใกล้เดิม แต่เนื่องจากราคาไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือ 1112 ได้ จึงมองความได้เปรียบเมื่อวานเริ่มลดลงไป และกลายเป็นราคาไม่มีนัยสำคัญของทิศทางแทน ยังวนไปวนมาในกรอบ ลักษณะรอข่าวผลการประชุม FOMC ในวันพรุ่งนี้ แต่ระยะสั้นจากบริเวณที่ตกแนวรับแล้ว ยังมองการปรับตัวขึ้นไปเล็กน้อยสู่ระดับใกล้ 1112 เช่นเดิม ในวันนี้จะมีข่าวตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงเวลา 19.30 ซึ่งเป็นตัวเลขค้าปลีก คาดการณ์ว่าจะออกมาเป็นบวกกับทองคำ ทั้งนี้โดยปกติข่าวนี้มักจะเป็นสร้างความผันผวนระยะสั้นในลักษณะการเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาเท่านั้นต้องใช้ความระมัดระวังให้ดี กรอบการเหวี่ยงจะอยู่ประมาณ + - $5
ต่างชาติยังคงขายสุทธิและ Short สุทธิในฟิวเจอร์เพิ่มเติมอีก เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงพอประมาณ แต่ยังอยู่ในแนวโน้มแกว่งตัวออกข้าง ข่าวบวกเริ่มมีมากขึ้น หลังจากเริ่มมีการพิจารณาลดอัตราภาษีนิติบุคคลลง ทั้งนี้ คาดว่าในวันพรุ่งนี้ กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม 1.5% และนักวิเคราะห์คาดว่าจะคงระดับนี้ปจนถึงสิ้นปี เพราะ อเมริกากำลังจ่อที่จะขึ้นดอกเบี้ยรวมถึง การลดดอกเบี้ยในรอบที่ผ่านมาไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไรนัก ค่าเงินบาทยังดูแนวโน้มแข็งค่าลงมาแนวรับ 35.85
ทางเลือกหลัก : ราคายังคงแกว่งตัวในกรอบแนวรับแนวต้านใกล้เคียงนี้ไปอีกสักระยะหนึ่ง แนวรับ 1104 แนวต้าน 1112
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ข่าวช่วงนี้ยังคงไม่มีอะไรมาก นอกจากนี้ตัวเลขข่าวเศรษฐกิจที่เบาบาง ทำให้การเคลื่อนไหวยังคงเป็นไปอย่างจำกัด ข่าวที่พาดหัวอยู่ในช่วงนี้ส่วนใหญ่เป็นลักษณะเรื่องของ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นส่วนใหญ่ ว่าจะขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ และถ้าขึ้นจะขึ้นขนาดไหน ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยต่ำมาเป็นเวลา 6-7 ปีนั้นจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบกับตัวนี้เป็นหลัก (มากกว่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น เนื่องจาก ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่อ้างอิงทางตรงกันข้ามกับเงินดอลลาร์เลย แต่หุ้นยังมีเรื่องของการเติบโตของผลกำไรและลักษณะการดำเนินธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย) ในปัจจุบันการคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนั้นได้เบาบางลงจากระดับ 50% เหลือระดับ 28% เนื่องจาก การลดค่าเงินหยวนของจีนประกอบกับความผันผวนที่เกิดในตลาดหุ้นทั่วโลก และ Yield ของพันธบัตรอเมราที่ปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ
- กองทุน Pimco (pacific investment management ) ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ลงทุนในตราสารหนี้ และปัจจุบัน นาย เบน เบอนันเก้ อดีต ประธาน FED เป็นผู้บริหารเม็ดเงินอยู่ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า โอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ยเหลือต่ำกว่า 50% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันพรุ่งนี้
- ในสัปดาห์นี้จะมีผลการประชุม BOJ เพิ่มเติม นักลงทุนก็ต่างติดตาม เนื่องจาก ในปัจจุบัน จีนและญี่ปุ่นเข้ามามีบทบาทกับความผันผวนค่อนข้างมาก ล่าสุดตัวเลขของญี่ปุ่นหลังจากนโยบายของ นาย ชินโซ อาเบะ พบว่าปรับตัวดีขึ้น แต่ยังไม่เข้าเป้าหลายอย่างโดยเฉพาะ เงินเฟ้อ และ การขยายตัวของเศรษฐกิจ นักลงทุนและเทรดเดอร์ต่างติดตามผลการประชุมว่าจะมีอะไรใหม่หรือไม่
- กลุ่มโอเปกปรับลดประมาณการณ์การผลิตน้ำมันดิบปีหน้าลง 110,000 บาร์เรล/วัน แต่โดยรวมแล้วกำลังการผลิตของ OPEC ก็ยังอยู่ในระดับสูงและยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ราคาน้ำมันดิบในปัจจุบันยังคงทรงตัวอยู่แถวระดับ $43-44 ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงก่อนหน้าลงไปแตะระดับ $38 และมีแรงซื้อเทคนิคัลรีบาวน์ขึ้นมา
- BOI (Board of investment) ของไทยเตรียมตัวที่จะแก้ไขเพื่อลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ทั้งนี้ก่อนหน้านี้มีนโยบายอัดฉีดเงินให้กับ SMEs โดยจะเป็นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำกว่าปกติ ตลาดกำลังติดตามผลการประชุม กนง ในวันพรุ่งนี้ นักวิเคราะห์หลายคนคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่เดิมที่ 1.5%
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Retail sales 0.3% 0.6%
Core retail sales 0.2% 0.4%
Empire state manufacturing index 0.5% -14.9