บทวิเคราะห์

ย้อนกลับ

บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 13 ส.ค. 2558

 

เเนวรับ 1118 1115 1108 เเนวต้าน 1125 1133 1140

ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จากข่าวเรื่องจีนประกาศลดค่าเงินหยวนลงในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ซึ่งโดยปกติแล้วทองคำจะได้รับประโยชน์จากการเป็น Safe-haven เรื่อง Currency war ยังมองว่า เป็นปัจจัยระยะสั้นที่ช่วงหนุนราคาทองคำ และ คนในตลาดยังเข้าสู่โหมด Risk-off หรือ ไม่ต้องการรับความเสี่ยง สังเกตุจากตัวพันธบัตรมีแรงซื้อเข้ามาเรื่อยๆ และ Yield อายุ 2 ปีของ German bund เริ่มปรับตัวติดลบลงอีกในวันที่ผ่านมา ในสัปดาห์นี้หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1135 หรือเกินกว่านั้นได้จะทำให้ภาพรวมระยะสัปดาห์ดูดีขึ้น แต่มองว่า ยังต้องใช้ความระมัดระวังเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของอเมริกาในปีหน้า วันนี้ติดตามข่าวค้าปลีก คาดว่าจะมีความผันผวนเข้ามาเพิ่มอีก

ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 ติดต่อกันอีก 1215 ล้านบาท และเริ่มหันกลับมา Short สุทธิในฟิวเจอร์ต่อเนื่องอีก ภาพรวม SET ยังถูฏกดดันจากทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เมื่อสองวันที่ผ่านมา ตลาดหุ้นรอบบ้านเราล้วนแล้วแต่ปรับตัวลดลง แต่วันนี้รีบาวน์ขึ้นมา ต้องติดตามว่า SET เราจะรับข่าวในทางไหน แต่โดยรวมแล้วยังถูกกดดันจากแนวโน้มขาลงอยู่ ทางฝั่งค่าเงินบาทมองว่ายังอยู่ระดับ Overbought และให้น้ำหนักการแข็งค่าในระยะสั้นลงมาก่อน

ทางเลือกหลัก : มองราคาพักตัวลงมาเล็กน้อยถึงระดับ 111X ปลายๆ และยังให้น้ำหนักของการปรับตัวขึ้นต่อหลังจากการปรับตัวลดลงในรอบนี้ ภาพรวมเริ่มดูดีขึ้นแต่ยังไม่สามารถลบแนวโน้มขาลงได้

ทางเลือกรอง : -

รายละเอียด

- ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเป็นวันที่ 3ติดต่อกัน โดยได้รับปัจจัยบวกจากทางการจีนที่ลดค่าเงินหยวนลง (Devaluation) ซึ่งตัวนี้ก่อให้เกิดความกังวลต่ออัตราแลกเปลี่ยนทั่วโลก และ ความกังวลเรื่อง Currency war เริ่มกลับมาอีกครั้ง หลังจากประเทศมหาอำนาจต่างเดินเกมส์ลดค่าเงินแข่งกัน ซึ่งสามวันที่ผ่านมานี้จีนลดค่าเงินตัวเองทุกวัน และเมื่อเทียบกับช่วงก่อนลดพบว่าเงินหยวนอ่อนค่าลงมาร่วม 4% โดยปกติการที่เงินหยวนอ่อนค่าลง จะทำให้ประเทศจีนมีการนำเข้าสินค้าในราคาที่แพงขึ้นกว่าเดิม เพราะ ผลจากค่าเงิน และคาดการณ์ว่า สินค้าหรู สินค้าฟุ่มเฟือย อาจจะมีราคาสูงขึ้น ทำให้ความต้องการน้อยลง ทางฝั่งทองคำน่าจะได้รับผลกระทบจากตรงนี้เช่นกัน เพียงแต่ค่าเงินหยวนที่อ่อนค่ามา สร้างความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่จะเกิดในจีน และ อาจจะทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าประเภททองมากขึ้น เพื่อชดเชยภาวะเงินเฟ้อ

- กลุ่มประเทศ OPEC โดยเฉพาะ ซาอุดิอาระเบีย กำลังประสบปัญหาเรื่องการขาดดุลงบประมาณ และ อาจจะนำไปสู่การถถอยของเศรษฐกิจในอนาคต หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงมาต่ำอีกครั้ง จากการยืนยันว่าจะคงกำลังการผลิตเท่าเดิมของกลุ่มประเทศ OPEC เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้จากอุตสาหกรรม Shale oil ของอเมริกา เมื่อทำเช่นนี้แต่ผลลัพธ์กลับไม่ได้เป็นไปตามที่ซาอุดิอาระเบียคาดไว้ อุตสาหกรรม Shale oil สามารถปรับต้นทุนให้ต่ำลงจากการควบรวมกิจการ และ จำนวนปริมาณน้ำมันดิบก็ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง ถึงแม้ IEA จะคาดการณ์ในปีหน้าว่า Demand จะเพิ่มขึ้นและราคาน่าจะอยู่ที่ระดับสูงกว่านี้ แต่นักวิเคราะห์ประเมินว่า หากจะให้เศรษฐกิจของซาอุดิอาระเบียกลับมาได้นั้นราคาน้ำมันต้องอยู่ระดับที่สูงกว่านี้ประเมินไว้ว่าระดับประมาณ $106/บาร์เรล ปัจจุบันซาอุดิอาระเบียกำลังประสบปัญหาทุนสำรองลดลงเรื่อยๆ

- ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงจากปัญหาเรื่องจีน ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะ ประเทศเยอรมันที่มีสัดส่วนการส่งออกสินค้าไปยีงจีนสูง (รถยนต์ , สินค้าแบรนเนม) ส่งผลให้นักลงทุนเข้าสู่โหมด Risk-off หรือไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยง และเงินบางส่วนไหลเข้าตลาดพันธบัตร ทำให้พันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีของเยอรมัน Yield ติดลบระดับ –0.29% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1990 และทองคำก็ได้ประโยชน์จากตรงนี้

- กรีซได้รับเงินช่วยเหลือรอบที่ 3 หลังจากมีการเจรจากับเจ้าหนี้วงเงิน 8.6 หมื่นล้านยูโร

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD

Retail sales 0.6% -0.3%
Core retail sales 0.4% -0.1%
Unemployment claims 272K 270K