ย้อนกลับ
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 10 ส.ค. 2558
เเนวรับ 1089 1084 1080 เเนวต้าน 1096 1100 1110
ราคายังคงแกว่งตัวในกรอบสามเหลี่ยม หลังจากประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรซึ่งข่าวออกมาค่อนข้างสับสน แต่ตีความเป็นทางลบได้มากกว่า ซึ่งทางลบก็สะท้อนไปแล้ว และราคาได้มีแรงซื้อกลับเข้ามา คาดว่าจะไปทดสอบบริเวณกรอบบนอีกรอบ กรอบนี้จะอยู่บริเวณ 1095-1097 หากผ่านไปได้มองการปรับตัวขึ้นต่ออีกประมาณ $10-15 ไปยังระดับใกล้ $1110 หากผ่านจริงระดับ $1110 น่าจะทยอยปิดสถานะเนื่องจาก ระดับโซนข้างบนน่าจะมีแรงขายออกมามาก โดยยึดหลักว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ย (โอกาส 54% ที่จะขึ้นเดือน ก.ย.) กรณีกลับกันหากราคาไม่ผ่านก็จะลงมาแกว่งในกรอบใหม่ โดยมีจุดที่ไม่ควรหลุดคือ $1089 และสุดท้าย $1080
ต่างชาติยังคงไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยแต่หันกลับมา Long สุทธิในฟิวเจอร์ น้ำหนักของต่างชาติลดลงไปค่อนข้างมากในช่วงหลังนี้ ตลาดหุ้นถึงแม้ยังอยู่ในช่วงรีบาวน์แต่มองว่า จากปัจจัยลบที่เต็มตลาดและตลาดหุ้นทั่วโลก ยังไม่ฟื้นตัวเท่าไรนัก ให้ระมัดระวังการปรับตัวลดลงต่ออีก ถึงแม้ SET จะกลับมาอยู่ที่ค่าเฉลี่ย P/E ระยะยาว ส่วนทิศทางค่าเงินบาทมองว่าจะเริ่มแข็งลงมาในช่วงนี้โดยมีแนวรับบริเวณ 35.00 ยาวไปจนถึงระดับ 34.80 และ 34.90
ทางเลือกหลัก : มองราคาไปทดสอบกรอบบนอีกครั้งบริเวณ 1095-1097 และให้น้ำหนักทางฝั่งผ่านขึ้นไปมากกว่า ทั้งนี้ผ่านขึ้นไปแล้วให้ระมัดระวังแรงขายที่จะตามมาในโซน 1100 ให้มากขึ้น
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาที่ระดับ 215K จากเดือนก่อนหน้า 231K และคาดการณ์ 222K ส่วนอัตราว่างงานอยู่ที่ระดับ 5.3% เท่าเดิม ซึ่งถึงแม้ตัวเลขจะออกมาน้อยลง แต่ก็มีใส้ในในข่าวค่อนข้างมากเมื่อวันศุกร์ อันแรกนั้นพบว่า ตัวเลข U-6 ซึ่งเป็นตัววัดคนว่างงานแบบที่ไม่เต็มศักยภาพ รวมถึงแบบ Part-time ด้วยพบว่า ออกมาที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงเกิดวิกฤติเศรษฐกิจปี 2008 ออกมาที่ระดับ 10.4% ส่วนชั่วโมงการทำงานเฉลี่ยต่อสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 เช่นกัน ทั้งนี้อัตราค่าจ้างปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% ซึ่งหลายคนมองว่า อัตราว่างงานที่ลดลงจนใกล้จะเกิดการจ้างงานเต็มที่แล้วนั้น อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นกว่านี้ แต่ระดับปัจจุบันเงินเฟ้อนั้นยังไม่เกิดเท่าไร จึงเป็นเรื่องที่น่าขัดแย้งกัน ทั้งนี้ความน่าจะเป็นที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้นเป็น 54% หลังจากรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรถูกประกาศออกมา ทั้งนี้ก็ยังมีบางฝ่ายคาดว่า เงินเฟ้อยังไม่ถึงและจะชะลอไปขึ้น ธ.ค. ต้องติดตามกันต่อไป
-ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงไปแตะระดับ $43/บารเรลในวันศุกร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดที่เคยทำมานับตั้งแต่ช่วงต้นปี ก่อนที่จะรีบาวน์ขึ้นไปกว่า 27% และก็ปรับตัวลดลงมาที่เดิมในสัปดาห์ที่ผ่านมาจากความกังวล Supply หลังจากสต๊อกน้ำมันดิบ และ แท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของอเมริกาเริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้งถึงแม้จะเล็กน้อย นอกจากนี้ดีมานด์ของอเมริกาจากตรงนี้คาดว่าจะลดลงต่อ รวมถึง กำลังจะมีการปิดโรงกลั่นเพื่อปรับปรุงและซ่อมบำรงในอีก 1-2เดือนข้างหน้านี้ ทำให้ความต้องการน้ำมันดิบคาดว่าจะน้อยลงไปอีก
- จากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนมาในวันศุกร์ ก็มีนักวิเคราะห์ออกมาให้ความเห็นว่า ถึงแม้เงินดอลลาร์จะอ่อนค่า แต่ Upside ของทองนั้นยังเป็นไปอย่างจำกัดในช่วงนี้ เนื่องจากพอเวลาจะขึ้นก็จะมีแรงขายออกมาจากมุมมองที่ว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ย จึงคาดว่าการขึ้นของทองคำแต่ละรอบจะเป็นแบบ Short-lived ในระยะนี้
- ตัวเลขการส่งออกของจีนออกมาแย่ลงมากที่ระดับ –8.3% จากคาดการณ์ –1.5% แต่นำเข้าหฌหดตัวแรงเช่นกัน ยังส่งผลให้จีนเกินดุลการค้าอยู่ ส่วนตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตในเดือน กรกฏาคมออกมาที่ระดับ –5.4% น่าผิดหวังกว่าคาดการณ์ -5.0% ส่วนเงินเฟ้อ CPI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.6% จากคาดการณ์ 1.4% ทั้งนี้ตลาดคาดว่า จีนจะมีมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นวิธีการลดดอกเบี้ยหรือลด RRR ลง