บทวิเคราะห์

ย้อนกลับ

บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 6 ส.ค. 2558

เเนวรับ 1084 1080 1077 เเนวต้าน 1087 1090 1095

ราคายังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบอย่างชัดเจน แต่กรอบเริ่มบีบลงมาเรื่อยๆ โดยมีแนวรับ 1077-1080 ที่มีแนวรับที่เป็นนัยสำคัญ หลุดจากตรงนี้มองว่า ไม่ควรจะมี สถานะ Long และให้ใช้ความระมัดระวัง False breakout รวมถึง คาดว่าหลังจากผ่านไปในทางใดทางหนึ่งนั้นอาจจะค่อนข้างแรงเพราะ การเคลื่อนไหวหลังจากที่สร้างรูปแบบของสามเหลี่ยมมักจะค่อนข้างแรง และคาดว่า ความผันผวนน่าจะเกิดในวันศุกร์ที่เป็นวันประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร สำหรับระยะสั้นมีช่องว่าง (GAP) ที่ระดับ 1087-1088 อยู่อีกรอให้ราคาขึ้นไปปิด ทั้งนี้มองการรีบาวน์ของราคายังคงเป็นไปอย่างจำกัด ข่าวบวกยังไม่ค่อยมี มีเพียง ADP ที่น้อยลงนำไปสู่คาดการณ์ NFP ที่น้อยลง

ต่างชาติหันกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเล็กน้อย 421 ล้านบาท และยังคงการ Long สุทธิในฟิวเจอร์ 6163 สัญญา เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ทิศทางของ SET ยังมองว่ายังเข้าสู่โซนรีบาวน์ เมื่อวานนี้ กนง คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.75% ให้เหตุผลว่า เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและ การลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งก่อนหน้านั้นเพียงพอแล้ว ทั้งนี้ค่าเงินบาทกลับไม่ได้แข็งค่าเท่าไรและยังปรับตัวอ่อนค่าต่อ คาดว่ามาจากความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย ทั้งนี้ เงินบาทยังอยู่ในภาวะ Overbought อยู่

ทางเลือกหลัก : ยังมองการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมโดยรวมอยู่ กรอบล่าง 1077-1080 ราคาไม่ควรหลุดบริเวณนี้คาดว่า ราคาน่าจะไปหลุดกรอบในช่วงวันศุกร์ ในทางใดทางหนึ่ง

ทางเลือกรอง : 

รายละเอียด

- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สำรวจโดยภาคเอกชน (ADP non-farm employment change) ลดลงสู่ระดับ 185K จากเดือนก่อนหน้า 229K และคาดการณ์ 216K ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงน้อยกว่าทั้งเดือนก่อนหน้าและคาดการณ์ เป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำ แต่หลังจากนั้นได้มีการประกาศตัวเลข ISM-PMI ภาคบริการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นค่อนข้างมากสู่ระดับ 60.3 จากเดือนก่อนหน้า 56 และคาดการณ์ 56.3 ซึ่งตัวนี้เองเป็นเหตุทำให้ทองคำปรับตัวลดลงกลับมาอยู่ที่ระดับเดิม และโดยปกติแล้วข่าวตัวเลข ADP นั้นค่อนข้างมีนัยสำคัญมากกว่า แต่ตลาดกลับเลือกที่จะตีความตัวเลข PMI ภาคบริการ และนำไปสู่การคาดการณ์ขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า ทั้งนี้ ความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นตัวกดดันราคาทองคำในช่วงนี้

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงสู่ระดับ $45/บาร์เรล เป็นระดับต่ำสุดแถวเดือน มีนาคม ถึงแม้สต๊อกน้ำมันดิบจะไม่สูงเท่าเดือนเมษายนก็ตาม แต่ก็นำไปสู่เรื่องของ Supply ที่ล้นตลาดเช่นเดิม ซึ่งจะเห็นว่ามุมมองของ สินค้าโภคภัณฑ์ในช่วงนี้ไม่ค่อยดี ถึงแม้จะมีข่าวบวกเข้ามา แต่ก็ไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้เท่าไร และความต้องการน้ำมันในช่วงนี้คาดว่าจะน้อยลงไปอีก ทำให้ราคาน้ำมันดิบไม่สามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ในช่วงนี้

- ความผันผวนของตลาดพันธบัตรได้เริ่มสูงขึ้น ซึ่งความผันผวนที่เกิดขึ้นนั้นมาจากข่าวเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยที่เข้ามากระทบในช่วงนี้ ล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุงใหม่ที่ 0.76% ในขณะที่ อายุ 10 ปี อยู่แถวระดับ 2.26% ตลาดพันธบัตรสะท้อนการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงแม้จะมีข่าวตัวเลขเศรษฐกิจบางตัวแย่ก็ตาม

- มีความเห็นของนักวิเคราะห์ผ่านทางสื่ออย่าง Bloomberg ว่า ถ้าเชื่อว่า History repeat itself ราคาทองคำน่าจะทรงตัวแถวนี้ไปจนถึงปี 2035 หรืออีกประมาณ 20 ปี เนื่องจากการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงปี 2011 ที่ราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดแล้วลงมานั้นคล้ายกับปี 1980 ถึงแม้ปัจจัยพื้นฐานจะต่างกันเนื่องจากตอนนั้นอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ระดับ 17% ในขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่สองหลัก ซึ่งปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำและเงินเฟ้อก็อยู่ระดับใกล้ 0 ทั้งนี้หากเป็นไปตามนี้จริงคาดว่าทองคำจะแกว่งตัวออกข้างแทนที่จะปรับตัวลดลง

- FED Powell ให้ความเห็นว่าอัตราเอกเบี้ยน่าจะยังไม่ขึ้นในช่วงเดือนหน้า อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ระดับต่ำ

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD 

Unemployment claims 273K 267K