ย้อนกลับ
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 29 ก.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 29-7-58
เเนวรับ 1092 1090 1085 เเนวต้าน 1100 1105 1111
มองราคาขึ้นไปทดสอบเกินกว่า 1100 อีกครั้งและคาดว่าน่าจะผ่านไปได้ ไปจนถึงแนวต้าน 1105 และ 1111 ในขณะที่แนวรับอยู่บริเวณ 1092-1094 ซึ่งเป็นบริเวณที่ไม่ควรหลุด แนะนำใช้เป็นจุด Stop loss สำหรับเก็งกำไรระยะสั้น วันนี้ช่วงตี 1 ตามเวลาบ้านเราจะมีผลการประชุม FOMC ซึ่งตลาดยังมองมุมเดิมคือ ลุ้นว่าจะขึ้น กันยายน หรือ ธันวาคม และถ้าจะขึ้นจะขึ้นเท่าไร ปัจจุบันได้มีการคาดการณ์ว่าจะขึ้นที่ประมาณ 0.10% มีโอกาสสูง เพราะ CME future ปัจจุบันตลาดเริ่มลงความเห็นผ่านตัว FED Fund rate future ว่าอยู่ระดับประมาณ 0.14% ปัจจัยอื่นยังค่อนข้างคงที่ และเป็นลบกับทองคำอย่างคงที่ จึงมองว่า การรีบาวน์อาจจะยังจำกัดอยู่
ตลาดหุ้นรีบาวน์ขึ้นมาเล็กน้อย ภาพรวมยังโดนกดดันอยู่ ปรับตัวลดลงต่อเนื่องในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจัยทั้งในประเทศและนอกประเทศ มองว่าน่าจะชะลอการลงเล็กน้อยสำหรับตลาดหุ้นไทย นักวิเคราะห์เริ่มมองว่าระดับปัจจุบันเริ่มกลับมาซื้อ-ขายกันที่ระดับเฉลี่ย และมองว่าระดับตั้งแต่ 1420 จนถึง 1370 เป็นระดับที่ดัชนีค่อนข้างถูกลง เพียงแต่ตอนนี้หลุดแนว Uptrend มา ไม่แนะนำซื้อเก็งกำไรควรเป็นทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวค่อนทางแข็งค่า
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไปอีกครั้งหนึ่งแนวต้าน 1100 และ 1105 –1111
ทางเลือกรอง : ราคหลุด 1092 ลงมา มองว่าขาขึ้นเริ่มเสียเปรียบไป
รายละเอียด
- วันนี้จะมีผลการประชุม FOMC ในช่วงตี 1 ตามเวลาบ้านเรา เกี่ยวกับทิศทางของอัตราดอกเบี้ย ตลาดคาดว่ารอบนี้จะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ยังลุ้นกันเหมือนเดิมคือ ว่าขึ้นดอกเบี้ยเดือนกันยายน หรือ เดือน ธันวาคม ในขณะที่รอบนี้มีออพชันหรือทางเลือกเพิ่มคือ มองว่าประธาน FED อาจจะขึ้น 10 Basis points หรือประมาณ 0.10% หลังจากคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำมาทั้งสิ้น 9 ปี ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ย 0.10% นั้นค่อนข้างน้อย และเมื่อดูสถิติย้อนหลังพบว่า การเคลื่อนไหวระดับนี้ไม่เคยเกิดมาตั้งแต่ปี 1934 ซึ่งนับเป็นจำนวนทั้งหมด 179 ครั้ง ซึ่งนักวิเคราะห์มอง CME future ที่บ่งบอกถึงมุมมองคนในตลาดนั้นพบว่า จากเดิมตัวฟิวเจอร์มองว่าจะขึ้นที่ประมาณ 0.25% ในเดือนกันยายน ปัจจุบันปรับตัวลดลงมาเหลือ 0.14% ทำให้พออนุมานได้ว่า จะขึ้นประมาณ 0.1% ซึ่งยังอยู่ในกรอบเป้าหมายการขึ้นที่ 0-0.25% ซึ่งหากมีการส่งสัญญาณขั้นอัตราดอกเบี้ยที่ประมาณนี้จริงคาดว่าจะเป็นบวกกับตลาดทั่วโลกระยะสั้นจากการทยอยขึ้นทีละน้อย ทั้งนี้ภาพรวมยังเป็นปัจจัยลบและ หากขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกแล้วมองว่า นโยบายการเงินของอเมริกาจะเริ่มตึงตัวขึ้น
- ตัวเลขราคาบ้าน S&P composite ปรับตัวลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 4.9%
จากเดือนก่อนหน้า 5% และคาดการณ์ 5.2% ฝั่ง Flash PMI ภาคบริการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับดัชนีภาคการผลิต Richmond ที่สูงขึ้นเช่นเดียวกัน และสุดท้ายข่าวสำคัญตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงสู่ระดับ 90.9 จากเดิมที่ระดับ 100 ทั้งนี้ข่าวค่อนข้างผสมกันเมื่อวานนี้ทำให้ทองคำไม่มีทิศทางที่ชัดเจน
- ตลาดหุ้นทั่วโลกรีบาวน์ขึ้นมาหลังจากน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 3% ไปหยุดที่ระดับประมาณ $48/บาร์เรล ฝั่ง World bank ออกมาให้ราคาเป้าหมายที่ระดับบริเวณ $57/บาร์เรล ทั้งนี้แท่นขุดเจาะ Shale oil/Shale gas กลับมาเริ่มผลิตอีกครั้งหลังจากคาดว่าต้นทุนในการผลิตปรับลดลง ทำให้ Supplyมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก
- GFMS ซึ่งเป็นทีมวิเคราะห์โลหะมีค่าของรอยเตอร์เปิดเผยว่า ความต้องการทองคำปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2009 ในไตรมาสที่ 2 หลังจากตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงแรงทำให้มีการขายทองคำไปชดเชยการขาดทุนในตลาดหุ้นและความต้องการของอินเดียปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ไตรมาส ทางฝั่ง Valcambi เปิดเผยว่าความต้องการในทองคำของจีนในปีนี้อาจจะลดลงถึง 40%
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
1.00 USD
FOMC Statement