บทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 27 ก.ค. 2558
เเนวรับ 1095 1090 1085 เเนวต้าน 1100 1105 1111
จากรูปแบบที่เห็นในราย H1 และ H4 พบว่า เป็นรูปแบบ Bullish three-drive ซึ่งมองว่าราคาจะปรับตัวขึ้นต่อในอนาคต โดยมีแนวต้านสั้นๆบริเวณ 1100 ทั้งนี้รูปแบบแต่ละรูปแบบยังมีโอกาสพลาดอยู่ แต่เมื่อมองแล้ว โอกาสถูกมากกว่าพลาก รวมถึง ภาพรายใหญ่กว่าที่อยู่ในภาวะ Oversold และเมื่อวันศุกร์เกิดเป็นแท่งเทียนปิดบวกได้วันแรก จึงมองแนวโน้มรีบาวน์ในภาพรวมได้ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานยังดูไม่ดีเท่าไรนัก กองทุน และ SPDR ยังลดสถานะการถือครองอย่างต่อเนื่อง รวมถึง กระแสคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจและทิศทางดอกเบี้ยที่จะขึ้น เป็นปัจจัยหลักที่คอยกดดันราคาทองคำ นอกจากนั้นมาเจอแรงซื้อที่เบาบางจากทั้งจีนและอินเดียเป็นตัวซ้ำอีก
ต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย และ ยัง Short สุทธิในฟิวเจอร์เล็กน้อย ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังดูขาดแรงซื้อเข้ามา โบรกเกอร์หลายแห่งเริ่มมองว่า ระดับ Valuation ของตลาดหุ้นไทยเริ่มถูกลง มาเทรดกันที่ PE ประมาณ 12-14เท่า เข้าใกล้เฉลี่ย และ เข้าใกล้ –1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ซึ่งเป็นมูลค่าที่ค่อนข้างถูกกว่าช่วงก่อนหน้า และนักวิเคราะห์ให้คำแนะนำเริ่มสะสมระยะกลาง ค่าเงินบาทมองว่า เกิด Bearish divergent ใน Ovebought มองการเริ่มปรับตัวแข็งค่าลงมาแนวรับ 34.70 และ 34.80
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไป ขอให้ผ่านแนวต้านแรก 1100 ไปให้ได้ เพื่อที่จะมีแรงซื้อทางเทคนิคัลต่อ
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ในสัปดาห์นี้จะมีการประกาศตัวเลขข่าวทางเศรษฐกิจค่อนข้างมาก ในวันพุธจะมีผลการประชุม FOMC ซึ่งคาดการณ์ว่า คุณ เจเนต เยลเลน จะส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายอัตราดอกเบี้ย หลายคนคาดว่า แนวโน้มจะขึ้นดอกเบี้ยเดือน กันยายน ซึ่งในรอบนี้ถึงแม้จะไม่มีประกาศ แต่ก็สามารถดูเป็นทิศทางของนโยบายทางการเงินได้ว่าประธาน FED นั้นมีความเห็นอย่างไร ส่วนในวันพฤหัสจะมีการประกาศตัวเลข GDP ล่างหน้า (Advanced GDP) ของไตรมาสที่ 2 ออกมา คาดว่าจะออกมาขยายตัวมากขึ้น ซึ่งเป็นข่าวลบกับราคาทองคำ สาเหตุที่คาดว่าจะเป็นลบกับทองคำเพราะ เศรษฐกิจอเมริกามักจะหดตัวในช่วงไตรมาสแรก และจะกลับมาฟื้นในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดูดี
- ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากช่วงเช้าวันจันทร์ที่แล้วเกิดแรงขายในตลาดฮ่องกงทำให้ราคาเสียทรงไป ทำให้สถานะของกองทุน Hedge fund ต่างๆ เพิ่มสถานะการ Short มากขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา และ ยังคงเพิ่มต่อเนื่องมาจนถึงสัปดาห์นี้ ส่วนกองทุน SPDR ก็ยังปรับลดสถานะการถือครองทองคำอย่างต่อเนื่องลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2008
- ข้อมูลจาก IMF เปิดเผยว่า เยอรมันลดการถือครองทองคำลงอีก 2.39 ตัน ส่วนรัสเซีย และ คาซัคสถานยังคงซื้อทองคำเพิ่ม ซึ่งข้อมูลจากสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า รัสเซียเป็นผู้ซื้อทองคำมากสุดในปีนี้ แซงจีนไปเรียบร้อย (ซื้อจากธนาคารกลาง ไม่ใช่ซื้อเพื่อการใช้ การทำจิลเวอรี หรือการลงทุน) ทำให้รัสเซียสำรองทองคำเป็นอันดับที่ 5 ของโลก (อันดับที่ 6 หากนับรวมการถือทองคำของ IMF ด้วย)
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแรงต่อเนื่องสู่ระดับ $47-48/บาร์เรล จากคาดการณ์ สต๊อกน้ำมันดิบที่ออกมาปรับตัวมากขึ้น และ กังวลเรื่อง Oversupply ขณะที่ OPEC ยังคงกำลังการผลิตเท่าเดิม แต่มีความเห็นว่า Demand น้ำมันดิบในปีหน้าคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแต่ราคากลับไม่รับข่าวเหล่านี้เท่าไรนัก
- สถานการณ์ในกรีซช่วงนี้เงียบหายไป แต่ก็กำลังดำเนินมาตรการอย่างต่อเนื่อง แต่มีปัญหาตรงที่การเจรจาไม่สามารถเกิดในสัปดห์ที่ผ่านมาได้ แต่จะมีการเจรจาอีกรอบ
- ปัญหาภัยแล้งของไทยเริ่มเบาบางลง นักวิเคราะห์คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากขึ้น
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Durable goods orders 3.2% -2.2%
Core durables goods orders 0.4% 0.0%