บทวิเคราะห์

ย้อนกลับ

บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 18 มิ.ย. 2558

แนวทางทองคำวันที่ 18-6-58

เเนวรับ 1183 1180 1175 เเนวต้าน 1187 1192 1202

ผลการประชุม FOMC เมื่อวานพบว่า ประธาน FED ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม 0.25% และให้ความเห็นไปในทางว่า เศรษฐกิจอเมริกาชะลอตัวลงในช่วงไตรมาสแรก รวมถึงปรับลดคาดการณ์การเติบโต GDP ลง ไปในทิศทางเดียวกันกับอัตราเงินเฟ้อที่ปรับลงเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังให้มุมมองว่า ถึงแม้เศรษฐกิจชะลอตัวลงแต่แนวโน้มดอกเบี้ยจะขึ้นภายในปีนี้ ซึ่ง Dot plot ของคณะกรรมการแต่ละท่านบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ของการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน กันยายน และ ธันวาคมเป็นหลัก ทองคำระยะหลังจากนี้จะค่อยๆปรับตัวรับข่าว แต่จะยังขึ้นได้ไม่แรงมากจากข่าวนี้ วันนี้มองการทรงตัวระดับนี้ก่อน ก่อนที่จะผ่านแนวต้าน 1187 ขึ้นไปยัง 1192 และ 1202 

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเล็กน้อย ประมาณ 600 ล้านบาท และยัง Short สุทธิในฟิวเจอร์เป็นวันที่ 4 ต่อกันอีก 1,846 สัญญา ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้หลังจากทรงตัวบริเวณนี้ได้ และให้น้ำหนักทางบวกต่อเนื่อง เพียงแต่ระยะสั้นมี gap ที่เปิดไว้ก่อนที่จะขึ้นถึง 2 Gap ให้ระมัดระวังการย่อตัวลงมาปิด Gap ก่อน แต่เมื่อดูแล้ว พบว่า แท่งเทียนเกิดการกลับตัวไปแล้ว และมองว่า โอกาสเข้ารอบรีบาวน์มาแล้ว ติดตามรอบรีบาวน์ว่าจะไกขนาดไหน เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อย

ทางเลือกหลัก : มองราคาทรงตัว ถึงปรับตัวลดลงเล็กน้อยบริเวณใต้แนวต้าน 1187 ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อไปยัง 1192 และ 1202

ทางเลือกรอง : ราคาไม่ยอมผ่าน 1187 ไปได้สักทีให้ใช้ความระมัดระวัง

รายละเอียด

- ผลการประชุม FOMC เมื่อวานนี้พบว่ายังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่เดิมที่ระดับ 0.25% ฝั่งเศรษฐกิจพบว่า การจ้างงานปรับตัวดีขึ้น แต่ไตรมาสแรกเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากภาวะอากาศหนาวและการประท้วงที่ท่าเรือฝั่งตะวันตก ทำให้คาดการณ์ GDP ในปีนี้ปรับตัวลดลงจากช่วงการขยายตัวที่ระดับ 2.3-2.7% สู่ระดับ 1.8-2.0% ส่วนคาดการณ์เงินเฟ้อปรับตัวลดลงเล็กน้อย ทางฝั่งประมาณการณ์ดอกเบี้ยของ FED ณ สิ้นปีจะอยู่ที่ระดับ 0.625% (เท่ากับขึ้นจากระดับปัจจุบันประมาณ 1-2 ครั้ง ครั้งละ 0.25%) และประมาณการณ์ดอกเบี้ยในปีหน้าไว้ที่ระดับ 1.625% จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 1.875% Dot plot หรือความเห็นของคณะกรรมการส่วนใหญ่มองการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกที่เดือนกันยายน และ ธันวาคมในปีนี้

- หลังจากข่าวออกพบว่าค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าลงแรง ส่วนตลาดอื่นๆ กลับไม่ค่อยรับข่าวเท่าไร เหมือนกับว่า ตลาดรับรู้ข่าวตรงนี้ไปแล้ว ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย ตลาดหุ้นผันผวนในกรอบ เช่นเดียวกับตลาดพันธบัตร สินทรัพย์ทางการเงินส่วนใหญ่ผันผวนในกรอบแคบๆ ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน

- ECB เพิ่มเพดานกองทุนสำรองฉุกเฉิน (ELA) จาก 83 Billions ยูโร สู่ระดับ 84.1 Billions และ นาย ดรากี้ ประธาน ECB ได้ให้ความเห็นว่า สภาพคล่องที่มีเตีรยมไว้สำหรับกรีซ แต่ถ้ากรีซไม่สามารถจ่ายชำระหนี้ IMF จำนวน 1.6 Billions ในสิ้นเดือนนี้ได้ จะก่อให้เกิดความวุ่นวาย และยังไม่มีแผนที่จะคิดลดสินทรัพย์ค้ำประกัน ส่วนกรีซก็ยังไม่มีความคืบหน้าการเจรจา และ ยังกล่าวว่า ยอมรับหากเจ้าหนี้ปฎิเสธแผนช่วยเหลือ เพราะ เกินกว่าจุดนี้กรีซก็ไม่สามารถทำให้ได้เช่นกัน ความคืบหน้าในประเด็นกรีซก็ยังไม่ดีขึ้น ทำให้สินทรัพย์โดยเฉพาะหุ้นในประเทศในกลุ่มยุโรปยังทรงตัวถึงปรับตัวลดลงเล็กน้อย

- ราคาบ้านในจีนปรับตัวลดลง 5.7% ในเดือนพฤษภาคมเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นการหดตัวน้อยลงกว่าเดือนก่อนหน้า บ่งบอกถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังไม่ฟื้น หลังจากรัฐบาลจีนได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับตลาดอสังหาริมทรัพ์และพยายามกระตุ้นโดยการเพิ่มสภาพคล่องในช่วงที่ผ่านมา

- Fitch ได้ออกมาเตือนว่า หนี้ต่อ GDP ของไทยและมาเลเซียอยู่ระดับค่อนข้างสูง (86% และ 87% ต่อจีดีพี ตามลำดับ ) และเตือนว่า หนี้ระดับนี้จะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD 

CPI 0.5% 0.1%
Core CPI 0.2% 0.3%
Unemployment claims 278K 279K

21.00 USD 

Philly FED Manufacturing index 8.1 6.7