บทวิเคราะห์

ย้อนกลับ

บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 25 พ.ค. 2558

แนวทางทองคำวันที่ 25-5-58

เเนวรับ 1202 1200 1195 เเนวต้าน 1208 1212 1215

วันศุกร์ราคาเริ่มไหลลงจากตัวเลข CPI ทั้งนี้น้ำหนักข่าวคาดว่ายังไม่ได้เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ทองคำลงมา ทั้งนี้ทองคำลงมาทดสอบระดับ 1202 มุมมองในวันนี้มองว่า เหนือระดับนี้ยังมองขึ้นกลับไปที่เดิม กรณีที่ผิดทางคือราคาหลุด 1202 ลงไปนั้นมองว่า จะทำให้เกิดการลงไปอีกช่วงหนึ่งถึงบริเวณ 1190-1195 มุมมองในวันนี้จึงมองว่า ทางเลือกแรก เปิดสถานะซื้อโดยมีจุดตัดขาดทุน 1200-1202 และ เป้าหมายที่ 1208 และ 1212 (ปัจจุบัน 1204) ซึ่งอัตราส่วน RISK:REWARD อยู่ที่ 1:1 หรืออาจจะไปถึง 2:1 กรณีที่ไปถึง 1212 ทางเลือกหลังคือ เปิดสถานะขายเมื่อราคาหลุด 1200 ก็จะมีเป้าหมาย 1190 จุดตัดขาดทุน 1205 (2:1) ทั้งนี้วันนี้เป็นวันหยุดทำการของอเมริกา

ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2303 ล้านบาทเป็นวันที่ 3 ต่อเนื่องกัน ในขณะที่หันมา Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 6145 สัญญา มุมมองของตลาดหุ้นไทยมองว่าระมัดระวังการปรับฐานหลังจากหลุดแนวเส้น Uptrend ระยะสั้นมา แต่ก็ยังเจอแนวรับเมื่อวันศุกร์ที่ราคาลงไป ทั้งนี้ภาพรวมมองว่า ให้ระวังฝั่งลงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีประกาศตัวเลขการส่งออกซึ่งคาดว่า ถึงแม้จะออกมาดีแต่ก็ยังไม่สดใสเท่าไรนักเมื่อเทียบ yoy หรือ qoq ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่า แนวต้าน 33.60 หลุดแล้วอ่อนอีก

ทางเลือกหลัก : ภาพรวมเมื่อวันศุกร์ราคาปรับตัวลดลงมาค่อนข้างเร็ว จนทำให้เสียทรงพอสมควร ลงมาที่แนวรับ 1202 แต่มองว่า ระดับนี้จะยังสามรถพยุงราคาได้ และวันนี้มองการปรับตัวขึ้น

ทางเลือกรอง : ราคาที่หลุด 1200-1202 ลงมาจะทำให้เกิดการลงอีกรอบหนึ่ง



รายละเอียด

- ตัวเลขเงินเฟ้อหรือ CPI ออกมาที่ระดับ 0.1% เท่ากับคาดการณ์ ในขณะที่เดือนก่อนหน้าออกมาที่ 0.2% ทางฝั่ง Core CPI หรือเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมหมวดพลังงานและอาหารสดปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.3% จากคาดการณ์ 0.2% ที่เท่ากับเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ในวันศุกร์หลังจากตัวเลขประกาศออกมาส่งผลให้ทองคำปรับตัวลดลง ซึ่งน้ำหนักข่าวตัวนี้คาดว่าการลงรอบนี้ไม่ได้เกิดจากข่าว เนื่องจากเมื่อมาดูเนื้อข่าวจะพบว่า เงินเฟ้อทั่วไปลดลง แต่เงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น ซึ่งภาพรวมยังไม่มีนัยสำคัญอะไรในทิศทางทองคำ

- ประธาน FED พูดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กล่าวในทำนองที่ว่า ถึงแม้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้อ่อนแอในไตรมาสแรก รวมถึงตลาดแรงงานก็ยังไม่กลับไปยังระดับที่ควรจะเป็น FED ก็ยังให้น้ำหนักของการขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้อยู่หากตัวเลขเศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งและอัตราเงินเฟ้อเข้าใกล้ระดับเป้าหมายที่ 2% นอกจากนี้มองว่าช่วงครึ่งหลังของปีเศรษฐกิจอเมริกาจะกลับฟื้นขึ้นมาได้ นอกจากนี้ยังแสดงความกังวลถึงความผันผวนของสินทรัพย์ทางการเงินขณะที่ทำการขึ้นดอกเบี้ย

- ECB เตรียมแผนฉุกเฉินให้กับธนาคารพาณิชย์ของกรีซหลังไม่มีทีท่าว่าจะเจรจาได้ ทั้งนี้นายกกรีซในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา กล่าวว่า กรีซไม่สามารถรองรับการรัดเข็มขัดที่มากกว่านี้แล้ว และหากไม่ได้รับเงินช่วยเหลืออาจจะทำให้มีปัญหาเรื่องขาดสภาพคล่อง ซึ่ง IMF ได้ออกมากล่าวว่า กรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ IMF รวมถึง ไม่มีเงินจ่ายค่าใช้จ่ายอย่างค่าจ้างแรงงานและกองทุนบำเหน็จบำนาญ

- ราคาน้ำมันดิบในช่วงนี้ค่อนข้างทรงตัว หลังจากเมื่อช่วงก่อนหน้าปรับตัวสูงขึ้นจากสต๊อกน้ำมันดิบที่ออกมาลดลงเล็กน้อย และในช่วงนี้เป็นช่วง Driving demand ของอเมริกาที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้การบริโภคน้ำมันในประเทศมีการใช้มากขึ้น และ ความไม่สงบเล็กน้อยในประเทศตะวันออกกลางที่ยังมีปัญหากันอยู่ ล่าสุด ปากีสถานปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 7% จากเดิม 8% เนื่องจากภาวะเงินฝืดที่ก่อตัวเช่นเดียวกับประเทศฮื่นๆหลังจากราคาน้ำมันตกลงมาอยู่ระดับต่ำ

- กองทุน Hedge fund เพิ่มสถานะ Long ในซิลเวอร์มากเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนทองคำก็เช่นกัน ทั้งนี้ข้อมูลเมื่อสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 พฤษภาคม ข้อมูลจาก CFCT เปิดเผยไว้ที่ CNBC

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 

USD Bank holidays