ย้อนกลับ
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 11 พ.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 11-5-58
เเนวรับ 1187 1185 1180 เเนวต้าน 1190 1194 1200
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมามากกว่าเดือนก่อนหน้าถึงแม้จะน้อยกว่าคาดการณ์เล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วค่อนข้างเป็นปัจจัยลบ นอกจากนี้อัตราว่างงานยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องเหลือระดับ 5.4% จากข่าวที่ออกมาผสมกันเหล่านี้ทำให้เกิดความผันผวนของทิศทางในกรอบแคบๆ ซึ่งเมื่อดูทิศทางโดยรวมแล้ว ยังให้น้ำหนักทางฝั่งลงก่อนมากกว่า โดยมีแนวรับ 1185 เป็นแนวรับแรก กรณีถ้าหลุด 1185 ลงไปจะทำให้เกิดการหลุดแนวรับลงไปอีก $5-10 มีแนวรับสำคัญที่ 1175 กรณีลงมา 1185 แล้วรับอยู่มองการรีบาวน์ขึ้นไป 1190 อีกครั้งหนึ่ง ภาพรวมยังคงเป็นการเน้นเก็งกำไรในกรอบแคบๆบริเวณนี้ โดยมีความได้เปรียบในฝั่งขาลงที่มากกว่าเล็กน้อย
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 472 ล้านบาท และยัง Short สุทธิในตลาดหุ้นต่อ 2097 สัญญา เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ปิดบวกแรงขึ้นมาเหนือระดับ 1500 จุด ซึ่งมองว่าทิศทางยังมีความผันผวนค่อนข้างมาก ปัจจัยที่ทั้งบวกและลบผสมกันไปหมด จึงยังอยากให้แนวโน้มชัดเจนมากกว่านี้ ทิศทางเริ่มชะลอการลง จากแท่งเทียนเมื่อวันศุกร์ ซึ่งน่าจะรอวันนี้ยืนยันอีกครั้ง ว่าทางฝั่งไหนจะมีอิทธิพลกับตลาดมากกว่ากัน ค่าเงินบาทมองการแข็งค่าลงมาเล็กน้อย โดยมีแนวรับสำคัญ 33.20
ทางเลือกหลัก : มองราคาเริ่มไหลลงอีกครั้งหนึ่ง โดยมีแนวรับ 1185 ส่วนแนวต้านบริเวณ 1190 น้ำหนักยังมองในกรอบ แต่ค่อนไปทางปรับตัวลดลงก่อน
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาที่ระดับ 223K จากเดือนก่อนหน้า 106K และคาดการณ์ 228K ส่วนระดับอัตราว่างงานออกมาที่ระดับ 5.4% จากเดือนก่อนหน้า 5.5% กลุ่มตัวเลขชุดนี้ค่อนข้างเป็นลบกับราคาทองคำ เนื่องจาก ตัวเลขออกมาดีกว่าเดือนที่แล้วถึงแม้จะไม่มากเท่าคาดการณ์ก็ตาม และเดือนที่แล้วเป็นเดือนที่การจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงเนื่องจากภาวะภัยหนาว ในเดือนนี้จึงก่อให้เกิดความผันผวนและยากแก่การตีความ ส่งผลให้ทองคำผันผวนรุนแรงอยู่ในกรอบ ทั้งนี้รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงปรับตัวลดลงเหลือระดับ 0.1% จากเดือนก่อนหน้า 0.2%
- จากตัวเลขการจ้างงานที่ออกมานั้น ทำให้กระแสเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยเร็วหรือช้ากว่ากำหนดเริ่มกลับมา อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้กระแสก็ยังคงเหมือนเดิมแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายเช่นเดิม ข่าวนี้ก็ทำให้ความผันผวนของราคาทองคำยังคงแกว่งตัววนไปวนมาในกรอบ ทั้งนี้ตลาดหุ้นดาวโจนส์และทางฝั่งตลาดหุ้นของทางฝั่งยุโรปปรับตัวขึ้นแรงในวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่วนในเช้าวันนี้ตลาดหุ้นเอเชียได้รับประโยชน์จากการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินของจีน (ลดดอกเบี้ยลงอีก 25 Basis points) เป็นการลดดอกเบี้ยเป็นรอบที่ 3 ในรอบ 6 เดือน
- ข้อมูลจาก CME Fedwatch เปิดเผยว่า เทรดเดอร์มองว่า FED มีโอกาส 51% ที่จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยประเมินไว้ในเดือน ธันวาคม โดยอาศัยการประเมินจาก Fed Fund Rate futures
- สถานะของกองทุน SPDR ยังคงเป็นมุมมองของ Bearish ในวันศุกร์ขายเพิ่มอีก 1.45% สู่ระดับ 728.33 ตัน ส่วนทางฝั่ง Hedge funds และกองทุนต่างๆ ปรับลดการถือครองสถานะ Bullish ในช่วงปิดสัปดาห์ถึงวันที่ 5 พฤษภาคม ข้อมูลจาก CFCT เปิดเผยกับ CNBC เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
- รมว.คลังของเยอมัน ออกมาประเมินสถานการณ์ของกรีซว่า ให้ระวังเพราะอาจเกิดสถานะการผิดนัดชำระหนี้แบบไม่ตั้งใจ เนื่องจาก กรีซกำลังมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง หรือเงินสดในมือน้อยลงค่อนข้างมาก ตลาดกำลังติตตามการประชุมในวันนี้อีกครั้งหนึ่ง หลังจากประชุมรอบก่อนหน้าไม่ได้มีความคืบหน้าอะไรมารายงานเท่าไรนัก
- ธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 6 เดือนสู่ระดับ 5.1%