ย้อนกลับ
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 16 เมษายน 2558
แนวทางทองคำวันที่ 16-4-58
เเนวรับ 1201 1196 1185 เเนวต้าน 1210 1215 1221
ราคาทองคำในช่วงวันหยุดแกว่งตัวไปมาค่อนข้างจำกัดอยู่ในกรอบ ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน แต่เมื่อวานนี้ราคาปิดเริ่มดูดีขึ้น เป็นการปรับตัวออกจากเส้นค่าเฉลี่ย ยืนยันแนวโน้มขาขึ้นในช่วงนี้ต่อไป แนวต้านที่มองในวันนึ้คือ 1210 และ 1220 ส่วนแนวรับที่ไม่ควรจะหลุดคือบริเวณ 1195 ซึ่งหากหลุด 1195 ลงมาอีกรอบนั้นอาจจะทำให้ภาพรวมของขาขึ้นเริ่มเสียไป ทั้งนี้โอกาสเกิดในทางนี้มองว่าค่อนข้างน้อย และยังมองขาขึ้นได้เปรียบกว่า โดยมีปัจจัยบวกจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงมา และ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้กลุ่มสินค้าของคอมโมดิตี้มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวตามกันมา
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 251 ล้านบาท แต่ยัง Long สุทธิในฟิวเจอร์ต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 อีก 2,120 สัญญา ถึงแม้ภาพรวมยังมองการรีบาวน์แต่ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านของเราในกลุ่ม TIPs ไม่ว่าจะเป็น อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ต่างปรับตัวลดลงติดต่อกัน 3 วันรวด ซึ่งเป็นแรงส่งที่อาจจะมาถึงตลาดหุ้นบ้านเราได้ ต้องมาติดตามกันว่า จะพอรับอยู่ไหม ส่วน ธปท ได้ออกมาส่งสัญญาณถึงความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจไตรมาส 2 ว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนอะไรหรือไม่ ค่าเงินบาทแนวโน้มแข็งค่าเล็กน้อย
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นต่อไปอีก ภาพรวมดูดีขึ้น มองแนวต้าน 1210 เป็นแนวต้านแรก ถึงแม้ระหว่างวันอาจจะมีการย่อตัวเล็กน้อยก็ตาม
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1196 จะทำให้แนวโน้มนั้นเริ่มกลับไปลงอีกครั้ง
รายละเอียด
-ช่วงหยุดสงกรานต์ที่ผ่านมาข่าวตัวเลขข่าวเศรษฐกิจค่อนข้างน้อย เริ่มจากตัวเลขค้าปลีกในวันอังคารออกมาขยายตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.9% จากเดือนก่อนหน้า –0.5% และคาดการณ์ 1.1% ตัวเลขค้าปลีกถึงแม้จะออกมาเยอะกว่าเดือนก่อนหน้า แต่ยังไม่ถึงคาดการณื ด้วยข่าวเรื่องของสภาวะอากาศที่หนาวเย็นทำให้เศรษฐกิจอเมริกาในไตรมาสแรกชะลอตัวลง ส่วนเมื่อวานนี้มีอัตราการใช้กำลังกรผลิตและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมออกมาล้วนแล้วแต่ปรับตัวแย่ลงจากเดือนก่อนหน้าเกือบทั้งหมด ข่าวนี้เป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำ
- ผลการประชุม ECB เมื่อวานนี้ก็ยังคงเป็นทิศทางเดิมคือ จะทำ QE ต่อไปจนถึงอย่างน้อยเดือนกันยายนปีหน้า และหากอัตราเงินเฟ้อยังไม่เข้าเป้าที่ 2% ก็อาจจะมีการยืดเวลาของมาตรการ QE ออกไปอีก ซึ่งปัจจัยข่าวนั้นมองว่ายังค่อนข้างเหมือนเดิมไม่มีอะไรใหม่ แต่ที่เป็นประเด็นคือ มีผู้ผญิงคนหนึ่งเข้ามาประท้วงในระหว่างการแถลงการณ์ของนาย ดรากี้ ในเรื่องเกี่ยวกับ การไม่พอใจในการใช้อำนาจ (Dictator) ของ ECB ทั้งนี้ไม่ได้มีความรุนแรงอะไรเกิดขึ้น
- ภาพรวมตลาดต่างๆนั้นที่น่าสนใจคือ ตลาดน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่าระดับ $55/บาร์เรลแล้ว หลังจากแกว่งตัวอยู่ในกรอบค่อนข้างนาน ส่วนปัจจัยบวกก็ยังไม่มีเข้ามาเท่าไร สต๊อกน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับสูง คาดว่าการปรับตัวขึ้นมาส่วนหนึ่งนั้นเป็นเพราะ ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงในช่วงนี้ และทำให้ภาพรวมของกลุ่มคอมโมดิตี้ดูดีขึ้น ส่วนค่าเงินดอลลาร์ได้เริ่มอ่อนค่ามาในช่วงนี้ และมีความเห็นว่า เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเกินไปเริ่มส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจอเมริกาในทางลบมากขึ้น ส่วนราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำนั้นโดยรวมแล้วเป็นผลบวกต่อประเทศที่บริโภคน้ำมันอย่าง เอเชีย ยูโรโซรน และ อเมริกา ที่จะเพิ่ม GDP จากราคาน้ำมันในระดับต่ำได้ ส่วนประเทศที่จะได้รับปัจจัยลบคือ กลุ่มตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ แคนาดา เป็นต้น ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงยังไม่ทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายเพิ่มขึ่นเท่าไร
- ตัวเลข GDP ของจีนออกมาที่ระดับ 7% ในไตรมาสแรกเป็นการชะลอตัวมากที่สุดในรอบ 6 ปี ซึ่งคาดว่าจะทำให้แรงซื้อของประเทศที่บริโภคทองคำขนาดใหญ่อย่างจีนหายไปในช่วงปีนี้ ส่วนพรีเมียมของ Gold exchange ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ $3-4
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Unemployment claims 284K 281K
21.00 USD
Philly FED manufacturing index 6.5 5.0