บทวิเคราะห์

ย้อนกลับ

บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 8 เมษายน 2558

แนวทางทองคำวันที่ 8-4-58

เเนวรับ 1207 1205 1200 เเนวต้าน 1218 1225 1230

เมื่อวานนี้ทองคำก็ยังคงปรับตัวลดลงอีกเล็กน้อย มาอยู่ ณ ระดับแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1207 ซึ่งจุดนี้มองว่า เป็นจุดซื้อที่ดี คุ้มกับความเสี่ยง ถึงแม้ตัวเลขเศรษฐกิจช่วงนี้จะค่อนข้างเบาบาง การเคลื่อนไหวมักจะเป็นทางเทคนิคัลเป็นหลัก ภาพโดยรวมในภาพวันยังส่งสัญญาณขาขึ้นระยะสั้นชัดเจน แต่ยังขาดการยืนยันว่ามีแรงซื้อออกจากระดับ 1207 นี้ ถึงแม้ระหว่างวันอาจจะมีการปรับตัวลงไป แต่หากปิดต่ำกว่า 1207 ไม่ได้ยังมองว่า ทองคำจะยังคงปรับตัวขึ้นต่อ ราคาน้พมันดิบที่รีบาวน์ในรอบใหญ่ได้ส่งให้พื้นฐานของทองคำได้กลายเป็นบวกไป เนื่องจากเงินเฟ้อคาดการณ์ในอนาคตจะสูงขึ้น หากอัตราดอกเบี้ยคงระดับเดิม จะทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงปรับตัวลดลง

ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 673 ล้านบาท และไป Long สุทธิในฟิวเจอร์ค่อนข้างมากเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน โดย Long ไป 7630 สัญญาเมื่อวานนี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ตลาดหุ้นกำลังอยู่ในช่วงรีบาวน์ ทั้งนี้ยังคงต้องใช้ความระมัดระวังเล็กน้อยในการย่อตัว แต่มองว่าหากปิดสัปดาห์ในระดับนี้ได้ คาดว่าจะได้เห็นทรง SET กลับขึ้นไปด้านบน ทั้งนี้สัญญาฟิวเจอร์ยังเรียงตัวกันเป็นแบบสัญญาไกลยังคงลบอยู่ มุมมองของคนในตลาดยังไม่ดีเท่าไร เงินบาทมีจุดเปลี่ยนระยะสั้นที่ 32.50 

ทางเลือกหลัก : มองระดับราคานี้โอกาสรับอยู่สูง และ หาจังหวะเข้าซื้อ

ทางเลือกรอง : ราคาปิดต่ำกว่า 1207 มองว่า จะทำให้แนวโน้มไม่สวยเท่าไร



รายละเอียด

- ช่วงนี้เป็นช่วงหลังจากตัวเลข Non-farm payroll ที่จะไม่ค่อยมีข่าวตัวเลขเศรษฐกิจออกมาเท่าไรนักก็จะมีความเห็นของประธาน FED หรือ นักวิเคราะห์ต่างๆออกมาให้ความเห็น รวมถึง มุมมองไปที่ตลาดอื่นๆเป็นหลัก และตลาดจะยังคงทรงตัวไปจนถึงช่วงกลางเดือน (17-18 เม.ย.) ที่จะมีผลการประชุม FOMC นักวิเคราะห์หลายคนยังคาดการณ์ถึงโทน Dovish เป็นหลัก และเมื่อวานนี้มีตัวเลข Job openings ออกมาที่พบว่าปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี ทั้งนี้ตัวเลขยังบ่งบอกว่า นายจ้างยังคงหาลูกจ้างที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานได้ไม่เท่าไร และอาจจะทำให้อเมริกาอาจจะยังไม่เข้าสู่ภาวะการจ้างงานเต็มที่ทีส่งผลต่อราคาค่าจ้าง

- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวลดลงเล็กน้อย ท่ามกลาง Earning season ที่บริษัทจดทะเบียนจะทยอยประกาศตัวเลขกำไรของไตรมาสแรก นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทหลายแห่งอาจจะมีผลการดำเนินงานที่น้อยลง จากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องไปกระทบกับกำไรของบริษัทข้ามชาติ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นแรงเมื่อวานนี้กลับไม่ได้ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงานในอเมริกาเท่าไรนั

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเกินกว่า $2/บาร์เรล เมื่อวานนี้ และเกิดเป็นรูปแบบที่สวยงามในทางเทคนิค พร้อมที่จะส่งราคาให้ไปต่อ เป้าหมายเกือบ $60/ บาร์เรล ถึงแม้ในช่วงเช้าซาอุดิอาระเบียจะออกมากล่าวว่า กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 10.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน นับเป็นระดับสูงสุด (จากก่อนหน้า 10.2ล้านบาร์เรลต่อวัน) ทั้งนี้ไม่ได้กล่าวว่า สาเหตุที่กำลังการผลิตยังเพิ่มขึ้นนั้นมาจากสาเหตุใด แต่ราคาน้ำมันกลับไม่สะท้อนข่าวตรงนี้เข้าไปแล้ว คาดว่า ข่าวร้ายในตลาดน้ำมันได้สะท้อนไปส่วนหนึ่งแล้ว

- ตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่นยังอยู่ห่างเป้าหมายที่ 2% ซึ่งนักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า นโยบาย QQE ของญี่ปุ่นส่งผลกระทบโดยตรงกับเงินเฟ้อน้อยมาก เนื่องจาก หนี้ต่อ GDP ที่ยังอยู่ในระดับที่สูงอาจจะทำให้การใช้นโยบายได้ไม่เต็มที่ ทั้งนี้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจีนที่ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 7 ปี จากการคาดการณ์ผลการประชุมของ BOJ ที่ยังไม่คาดหวังถึงการผ่อนคลายมากขึ้นก็ตาม (ยังผ่อนคลายเท่าเดิม)

- IMF เตือนว่าเศรษฐกิจโลกอาจจะชะลอตัวไปอีกหลายปี จากโครงสร้างผู้สูงอายุ

- ECB เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล 4.74 หมื่นล้านยูโรอีก 1.26 หมื่นล้านยูโรเข้าซื้อ Covered bond, ABS