บทวิเคราะห์

ย้อนกลับ

บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 6 ก.พ. 2558

แนวทางทองคำวันที่ 6-2-58

เเนวรับ 1265 1260 1255 เเนวต้าน 1280 1285 1305

เมื่อวานนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยแต่โดยรวมแล้วยังอยู่ในกรอบของการแกว่งตัวบริเวณ 1260+ - ซึ่งระยะสั้นก็ยังมองมุมเดิมและคิดว่าจนกว่าตัวเลข NFP (Non-farm payroll) จะออกมาในคืนนี้เวลา 20.30 ตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นนั้นเป็นบวกกับทองคำ ไปในทิศทางเดียวกันกับแนวโน้มของค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่าลงมา เพียงแต่ ปัจจัยอื่นอย่าง ตลาดหุ้นที่ผ่านแนวต้านมา และยังมีช่องว่างให้ขึ้นต่ออีก และในตลาดทองคำเองที่ยังดูเหมือนจะยังลงไม่สุด (เป้าหมาย 124X) ก็ทำให้ภาพรวมยังคงไม่ชัดเจนเท่าไรนัก สำหรับระยะสั้นมองว่า จะยังลงไปทดสอบบริเวณแนวรับอีกรอบหนึ่ง กรณีราคาที่ผ่าน 1280-1285 ไปได้นั้นจะเริ่มมองขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 107 ล้านบาท และยัง Short สุทธิในตลาดฟิวเจอร์อีก 5,232 สัญญา ส่วนต่างระหว่างตัว SET50 และฟิวเจอร์เริ่มปรับตัวลู่เข้าหากันมากขึ้น ระดับ SET ที่ 1600 ตเองให้ระมัดระวัง นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า ระดับนี้ยังไม่เหมาะกับพื้นฐานในตอนนี้ Trialing PE ปัจจุบันอยู่ที่ระดับประมาณ 19 เท่า ต้องมาดูกันว่า ตลาดจะรับข่าวเหล่านี้หรือไม่ ส่วนทิศทางค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 32.50-32.65 ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ในเบื้องต้นมองแข็งค่าลงเล็กน้อย

ทางเลือกหลัก : มองราคาแกว่งตัวในกรอบ แต่ฝั่งลงได้เปรียบกว่าเล็กน้อย และอย่าลืมความผันผวนที่จะตามมาในคืนนี้ด้วย

ทางเลือกรอง : ราคาที่หลุด1280-1285 ขึ้นไป มองว่าราคาจะเริ่มอีกครั้ง

รายละเอียด

- ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องอีกกว่า 1% หลังจากราคาน้ำมันดิบค่อนข้างทรงตัวแต่ในการทรงตัวแถวระดับนี้นั้นมีความผันผวนเกิดขึ้นค่อนข้างมาก รวมถึงสถานการณ์ในกรีซที่เริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย ทำให้ตลาดหุ้นได้รับข่าวบวกจากตรงนี้ ในตลาดน้ำมันคนส่วนใหญ่ยังมีมุมมองในทางลบและยังคงปรับประมาณการณ์เป้าหมายราคาน้ำมันที่ระดับประมาณ 30 เหรียญต่อบาร์เรลในช่วงสิ้นปีนี้ ระดับ 30 เหรียญต่อบาร์เรลนั้นเป็นระดับที่อยู่ในสมัยช่วงที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจปี 2008 สถานการณ์ในปัจจุบันพบว่า ตลาดค่าเงิน (Forex) มีความผันผวนที่มากที่สุดในรอบ 20 ปี จากธนาคารกลางต่างๆที่เหมือนจะทำ Currency war โดยการลดอัตราดอกเบี้ย และต้องติดตามจีนให้ดี เพราะ หากจีนเข้าร่วมสงครามค่าเงินครั้งนี้นั้นจะทำให้การบริโภคคอมโมดิตีของจีนที่ปัจจุบันมีสัดส่วนถึง 40% หดตัวลง และจะไม่เป็นผลดีกับสินค้าคอมโมดิตีเท่าไร

- จากสถานการณ์น้ำมันดิบที่ผันผวนนั้น บริษัทน้ำมันหลายบริษัทกำลังประสบปัญหา และมุมมองของคนในตลาดก็เริ่มแตกแยกกัน ล่าสุดสต๊อกน้ำมันดิบที่ออกมาเมื่อวานเป็นระดับที่มากที่สุดในรอบ 80ปี ย้อนกลับไปนับตั้งแต่ปี 1930 และดูเหมือนกำลังการผลิตของอเมริกาจะยังคงไม่ลดลงจนกว่าจะถึงช่วงปลายปี 2015 นี้ และ OPEC ก็ยังยืนยันที่จะไม่ลดกำลังการผลิต

- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ออกมาที่ระดับ 278K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 267K และ คาดการณ์ 287K ส่วนตัวเลขดุลการค้าขาดดุลเพิ่มขึ้นหลังจากการส่งออกน้อยลงแต่การนำเข้ากลับเพิ่มสูงขึ้น ข่าวเหล่านี้เป็นปัจจัยบวกกับทองคำเล็กน้อยเมื่อคืนที่ผ่านมา

- อัตราเงินเฟ้อของรัสเซียพุ่งไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 15% เพิ่มขึ้นจาก 11.4% ในเดือนก่อนหน้าจากค่าเงินรูเบิลที่อ่อนค่าและการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง

- กรีซยังคงยืนยันจะไม่ร่วมมือกับ Troika ในการร่วมมือแก้ปัญหาส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ของกรีซจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจาก ECB และล่าสุด ECB ก็ออกมากล่าวว่าไม่สามารถใช้พันธบัตรของกรีซเป็นสินทรัพย์ค้ำประกันได้แล้ว สถานการณ์ก็ดูเหมือนจะยังไม่โอเคเท่าไรนักสำหรับกรีซ

- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยลดลงจากปีก่อนหน้าทั้งหมดออกมาที่ระดับ 80.4

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

20.30 USD 

Non farm employment change 236K 252K
Unemployment claims 5.6% 5.6%
Ave. Hourly earning 0.3% -0.2%