บทวิเคราะห์

ย้อนกลับ

บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 5 ก.พ. 2558

แนวทางทองคำวันที่ 5-2-58

เเนวรับ 1265 1260 1255 เเนวต้าน 1280 1285 1305

ราคาทองคำปรับตัวลดลงมาแต่ยังไม่สามรถหลุดแนวรับ 1250-1260 ลงมาได้ และเกิดแรงรีบาวน์ขึ้น ในภาพวันยังมองราคาถูกกดดันจากแนวโน้มขาลงอยู่ และการขึ้นในช่วงนี้ดูเหมือนจะยังไม่มาก และระยะสั้นนี้มองการแกว่งตัวของราคาในกรอบ 1260-1280 ซึ่งกว่าจะมีทิศทางที่ชัดเจนคงต้องรอหลุดไปในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งมองจากตรงนี้โอกาสเกิดพอๆกัน หากผ่านระดับ 1280-1285 มองไปทดสอบ 1305 อีกรอบหนึ่ง ค่าเงินดอลลาร์และยูโรเมื่อแล้วกลับกลายเป็นปัจจัยลบกับทองคำ เพราะค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่หากราคาปรับตัวลดลงเกินกว่า 1250-1260 มองว่าราคาจะเริ่มปรับตัวลดลงไปต่อไปยังแนวรับสำคัญบริเวณ 1240

ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2,436 ล้านบาท และ Long สุทธิ 2,866 สัญญา เป็นการปิดสถานะ Short ก่อนหน้าเกือบทั้งหมด ส่วนกองทุนยังคงเก็บสะสมสถานะ Short ไปเรื่อยๆ SET เมื่อวานเกิดแรงขายลงมาหลังจากปรับตัวขึ้นไปแรงในช่วงเช้าของการซื้อ-ขาย และมาปิดที่ระดับต่ำกว่า 1600 จุด ยังมี GAP ทางข้างล่างที่รอปิดอยู่ค่อนข้างมาก และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงแรงคาดว่าอาจจะมีผลต่อดัชนีได้ ค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวในกรอบ 32.55-32.65 มองทิศทางอ่อนค่าได้เปรียบกว่า

ทางเลือกหลัก : มองราคาแกว่งตัวใต้แนวต้าน 1280 และยังมองในมุมลงได้เปรียบกว่าเล็กน้อยในช่วงนี้

ทางเลือกรอง : ราคาที่ผ่าน 1280-1285 ขึ้นไปจะทำให้เปิดแนวโน้มขาขึ้นขึ้นมาใหม่ในระยะสั้นนี

รายละเอียด

- ตัวเลข ADP non-farm employment change ปรับตัวลดลงสู่ 213 K ขณะที่เดือนก่อนหน้า 253K และคาดการณ์ 224K หลังจากข่าวนี้ออกทำให้ทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะเจอแรงขายลงมาในช่วงของการซื้อ-ขายเมื่อวานนี้ แต่โดยรวมแล้วราคายังคงผันผวนอยู่ในกรอบ 1260-1270 จากนั้นมีตัวเลข ISM ภาคบริการที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 56.7 จากเดิม 56.2 และคาดการณ์ 56.6 ข่าวตัวเลขเศรษฐกิจเหล่านี้ยังไม่มีนัยสำคัญกับราคาทองคำเท่าไรนัก นักลงทุนต่างติดตามตัวเลข Non-farm ในวันพรุ่งนี้แทน

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแรงเมื่อวานนี้เกือบ 9% สู่ระดับการซื้อ-ขายที่ $48.50 ต่อบาร์เรล จากข่าว สต๊อกน้ำมันดิบที่เปิดเผยว่ายังมีการสต๊อกมาที่สุดเป็นสัปดาห์ที่ 4 ต่อเนื่องกันทั้งนี้ราคายังคงขึ้นจากระดับเดิมมาอยู่ที่ประมาณ 8% เมื่อเทียบกับจุดต่ำสุดก่อนหน้า ซึ่งราคาน้ำมันดิบที่ระดับต่ำนั้นได้ส่งผลต่อประเทศที่ส่งออกน้ำมันดิบสุทธิให้มีเศรษฐกิจแย่ลงไปอีก

- นักลงทุนหันไปจับตามองสถานการณ์ในกรีซหลังจาก ECB ไม่ยอมรับพันธบัตรกรีซเป็น Collateral หรือ สินทรัพย์ค้ำประกันในการเป็นสินทรัพย์สำรองสภาพคล่อง และในปัจจุบันกรีซอาจจะมีปัญหาการขาดสภาพคล่องในอนาคตหลังจากปฏิเสธการรับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมจาก Troika และอาจจะเริ่มขาดสภาพคล่องตั้งแต่ 25 กพ นี้ เป็นผลทำให้อาจจะต้องนำเงินภาษี เงินสะสมจากธนาคาร กองทุนประกันสังคมมาใช้ต่ออายุไปจนถึงต้นเดือนมีนาคม

- SPDR เพิ่มสถานะขึ้นอีกสู่ระดับ 24.69 ล้านออนซ์ และยังเป็นระดับที่สูงที่สุดนับจากเดือนตุลาคม

- ปัญหาเรื่องการผ่อนคลายทางการเงินยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง นับจากสวิสเซอร์แลนด์ ไปจนถึงสิงคโปร์ ระหว่างช่วงสิ้นปีจนถึงต้นปีนี้ธนาคารกลางแต่ละประเทศไม่ว่าจะเป็น อินเดีย สวิสเซอร์แลนด์ อียิปต์ เปรู เดนมาร์ค แคนาดา รัสเซีย และสิงคโปร์ต่างออกมาปรับลดอัตราดอกเบี้ยกันหมดเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเงินฝืดจากราคาน้ำมันดิบระดับต่ำ ล่าสุดเมื่อวานนี้ธนาคารกลางจีนประกาศลด RRR (Reserve require ratio) 0.50% สู่ระดับ 19.5% เป็นการตัดอัตราส่วนการสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์แรงที่สุดนับตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2012 และข่าวนี้เป็นบวกกับราคาทองคำ

ปัจจัยที่ต้องติตตาม

20.30 USD

Unemployment claims 287K 265K