ย้อนกลับ
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 15 ม.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 15-1-58
เเนวรับ 1228 1225 1215 เเนวต้าน 1240 1243 1250
ราคาทองคำได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขค้าปลีกที่ออกมาหดตัวค่อนข้างแรง ระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขายได้ขึ้นไปทดสอบระดับ 1240 จากนั้นเกิดแรงขายลงมาไม่สามารถยืนอยู่เหนือแนวต้านนี้ได้ และเกิดเป็น Inside bar ในลักษณะของหางยื่นขึ้นด้านบน เป็นสัญญาณที่ไม่ดี แสดงให้เห็นถึง แรงขายมีน้ำหนักมากกว่า และเป็นสัญญาณเตือนให้ระมัดระวัง ในขณะที่ทางฝั่งของการปรับตัวลดลงมองแนวรับ 1225-1228 ยังค่อนข้างแข็งแกร่งจากรูปแบบ Invert head and shoulder แต่หากปรับตัวลดลงเกินกว่า 1228 มองแนวรับไว้ที่ 1215 ยังมีลุ้นให้ราคาดีดกลับขึ้นไปหลังจากปรับตัวลดลงมาในรอบนี้ตามแนวโน้มในภาพใหญ่ที่เป็นบวกอยู่ เพียงแต่ระยะสั้นอาจมีจังหวะซื้อ
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยน้อยลงเหลือเพียงระดับ 37 ล้านบาท และยัง Short สุทธิในฟิวเจอร์ 2,474 สัญญา มุมมองต่อ SET Index ยังมองว่า มีโอกาสปรับตัวลดลงอยู่ และช่องว่างที่ระดับ ต่ำกว่า 1500 ยังรอให้ลงไปปิดอยู่ โดยประเมินไว้ว่าน่าจะลงไปปิดก่อนวันที่ 22 มค.นี้ เพราะ มุมมองในวันที่ 22 คาดการณ์ถึงการอัดฉีด QE ของยูโรโซน ถึงแม้จะรับข่าวไปแล้ว แต่คาดว่าหุ้นจะขึ้นได้อยู่ หลังจากการปรับตัวลดลง ค่าเงินบาททิศทางยังคงแข็งค่าลงมาทดสอบ 32.70 ที่เป็นแนวรับสำคัญในระยะสั้นนี้
ทางเลือกหลัก : มองว่าสัญญาณเตือนทางฝั่งลงเริ่มมีแล้ว แต่ก็ยังมองทางฝั่งลงนั้นยังเป็นไปอย่างจำกัด มองแนวรับ 1225-1228 ยังคงเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง และหากหลุดมามองแนวรับ 1215 เป็นจุดซื้อ และลุ้นราคากลับไปยืน 1225 ได้ใหม่ในอนาคตหากหลุดลงมาด้านล่าง
ทางเลือกรอง :
รายละเอียด
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแรงถึง 5% เมื่อวานนี้ นับเป็นการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในวันเดียวที่ดีที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ถึงแม้สต๊อกน้ำมันดิบของอเมริกาจะออกมามากกว่าที่คาดการณ์ก็ตาม สาเหตุมาจากการทำ Short-covering ในออพชันและฟิวเจอร์ที่กำลังจะหมดอายุ ทำให้เกิดแรงซื้อคืนกลับมาค่อนข้างมาก ปัจจุบันมาซื้อ-ขายกันอยู่ที่ระดับ $48 ต่อบาร์เรล มุมมองในตลาดตอนนี้คือ ราคาน้ำมันดิบที่รีบาวน์ขึ้นมานั้นจะเป็นลักษณะของ Short-live คือรีบาวน์แปปเดียวแล้วลงต่อ เนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนจากปัจจัยพื้นฐานที่ยังคงเกิดภาวะ Oversupply ในตลาดน้ำมันดิบ
- ตัวเลขค้าปลีกหดตัว –0.9% จากเดือนก่อนหน้า 0.2% และคาดการณ์ 0.4% ในขณะที่ตัวเลขค้าปลีกแบบไม่รวมหมวดยานพาหนะ (Core retail sales) หดตัวเช่นเดียวกันที่ระดับ –0.1% จากเดือนก่อนหน้า 0.1%และคาดการณ์ 0.1% แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้ราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวลดลงและทำให้ผู้บริโภคประหยัดเงินจากค่าน้ำมันมากขึ้น แต่กลับไม่ได้ช่วยทำให้คนใช้จ่ายมากขึ้นเลย
- ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงร่วม 200 จุด (VIX Index ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นและยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นแสดงให้เห็นถึงความกังวลที่อยู่ในตลาดหุ้น) จากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และทีท่าของเยอรมันในวันก่อนในเรื่องของการทำ QE แต่หลังจากนั้นได้มีแรงรีบาวน์ขึ้นมาท่ามกลางราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัว และ สัญญาณในทางที่ดีขึ้นของเยอรมันทั้งนี้เรื่อง QE ของยุโรปหลายคนนั้นมองว่า ระดับราคาเหล่านี้ได้สะท้อนเรื่องการทำ QE ไปบางส่วนเรียบร้อยแล้ว
- Beige book ที่เป็นหนังสือรายงานสภาพเศรษฐกิจที่ FED จัดทำไว้และจะเปิดเผยปีละ 8 ครั้งเกี่ยวกับมุมมองของ FED ในทิศทางเศรษฐกิจเปิดเผยว่า เศรษฐกิจอเมริกายังคงเติบโตอยู่ในระดับปานกลางจากการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัวขึ้น และ ให้มุมองเกี่ยวกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงว่าเป็นส่วนหนึ่งของความกังวลถึงเศรษฐกิจที่จะได้รับปัจจัยลบบ้าง เนื่องจาก อุตสาหกรรมน้ำมันนั้นเริ่มมีปัญหาและอาจจะต้องปลดคนงานลงบางส่วนเพื่อเป็นการลดต้นทุน
- ธนาคารกลางจีนได้ออกมาเปิดเผยว่า ในอนาคตจะมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.30 USD
PPI -0.3% -0.2%
Core PPI 0.2% 0.0%
Unemployment claims 299K 294K
22.00 USD
Philly FED Manufacturing index 20.3 24.5