ย้อนกลับ
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 7 ม.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 7-1-57
เเนวรับ 1213 1210 1205 เเนวต้าน 1220 1225 1230
ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากพันธบัตรรัฐบาล 10 ปีของอเมริกาที่ปรับตัวสูงขึ้นผ่านแนวต้านไป ทำให้แรงซื้อมากระจุกตัวใน Safe-haven มากขึ้น และก็ที่คาดไว้ว่า 1260 ที่สะท้อนการเป็น Safe asset แนวต้านถัดไปของพันธบัตรรัฐบาลที่ขึ้นไปสูงสุดเมื่อกลางเดือน ธันวาคมปีที่แล้ว เทียบกับทองคำจะได้ระดับนั้นพอดี ในระยะสั้นถึงแม้ยังขึ้นต่อ แต่ยังมองว่า ราคาควรจะย่อตัวลงมาด้านล่างก่อนแนวรับแรกโดยประมาณที่1213 และ 1205 ที่เป็นแนวรับสำคัญตามลำดับ อาจจะกำหนดเป็นจุดซื้อก็ได้ เพราะ ตัวเลขข่าวในวันนี้เป็นลบกับทองคำ ไม่ว่าจะเป็นเงินเฟ้อทางฝั่งยุโรปที่คาดว่าจะไม่ขยายตัว และ ADP ที่คาดการณ์สูงขึ้น รวมทั้งผลการประชุม FOMC ที่ค่อนข้างผันผวน
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องอีก 3,956 ล้านบาท และเริ่มหันมา Short สุทธิในฟิวเจอร์ 1972 สัญญา เป็นวันแรกในรอบ 9 วันทำการ ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงมาช่วงเปิดตลาดเมื่อวานนี้ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับขึ้นไปโดยรวมแล้วปิด –5 ในวันนี้คาดว่า ดัชนีน่าจะรีบาวน์ขึ้นไปปิด GAP ที่เปิดลงมาได้ จากสัญญาณ Technical rebound ที่พบในกราฟรายชั่วโมงจึงมองว่า ตลาดหุ้นน่าจะฟื้นตัวได้ในช่วงนี้ แต่ยังมองการฟื้นตัวยังค่อนข้างจำกัดอยู่ ค่าเงินบาทแกว่งตัวในกรอบ 32.80-33.00 ทิศทางเริ่มแกว่ง
ทางเลือกหลัก : มองราคาเริ่มปรับตัวพักลงมาแถว 1205-1213 ทั้งโซนให้หาจังหวะเข้าซื้อ หากราคายังขึ้นต่อมองว่า ไม่คุ้มแล้วที่จะเสี่ยงซื้อตามขึ้นไป เพราะ ต้นทุนค่อนข้างสูงแล้ว มีที่น่าสังเกตุคือ ระดับราคา 1225 หากผ่านไปได้ จะเกิดการยืนยันการกลับตัวรูปแบบ Head and shoulder ซึ่งเป้าหมายอยู่เลย 1260 ไปหน่อย บริเวณใกล้ 1300
ทางเลือกรอง : หากราคายังขึ้นไม่หยุดจะมีแนวต้านสั้นๆบริเวณ 1225
รายละเอียด
- ภาพรวมตลาดต่างๆนั้นพบว่า เริ่มหันมาเป็นบวกกับทองคำมากขึ้น โดยประเด็นหลักตอนนี้เริ่มจาก ความกังวลของกรีซที่ออกจะออกจากยูโรโซน และ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง (มีทั้งข้อดีและข้อเสีย) ทำให้เงินไหลไปกองอยู่พันธบัตรอายุ 10 ปีหมด ซึ่งจากที่ตลาดคาดการณ์กันว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้และพันธบัตรอายุ 10 ปีน่าจะมี Yield อยู่ที่ประมาณ 3% แต่ล่าสุด Yield กลับปรับตัวลดสวนทางลงมาล่าสุดแตะระดับ 1.8% เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ Yield curve ยังเป็นลักษณะที่เป็นโค้งขึ้นหรือค่อนไปทาง Flat บ่งบอกถึง เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอยู่ และคาดว่า FED จะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ตามเดิม แต่สเกลการขึ้นอาจจะลดน้อยลงเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง
- สถานการณ์ในกรีซตอนนี้พบว่า เยอรมัน และ ฝรั่งเศส ยังคงกำลังประเมินความเสี่ยงหากกรีซต้องออกจากยูโรโซน ซึ่งสาเหตุที่กรีซอาจจะต้องออกจากยูโรโซน คือ พรรคฝ่ายค้านไซลีซ่า (Syriza) มีแนวโน้มจะได้รับเสียงส่วนใหญ่ และ ชูนโยบายไม่รับความช่วยเหลือจากทรอยก้า (Troika) นักวิเคราะห์ต่างประเทศประเมินว่า พรรค Syriza ใช้ข้อต่อรองในการผ่อนผันการชำระหนี้โดยการขู่ว่าจะออกจากยูโรโซนแต่ความเป็นไปได้ในการทำจริงอาจจะต้องมาประเมินกันอีกครั้ง เพราะว่า จะเกิดผลเสียกับทั้งกรีซเเละยูโรโซนเอง
- ราคาน้ำมันดิบที่ตกลงมาต่อเนื่องนั้นมีสาเหตุจาก ซาอุดิอาระเบียผู้ส่งออกน้ำมันดิบอันดับ 1 ของโลก ยังไม่ยอมลดกำลังการผลิต นาย Abdullah (Saudi’s king) ได้กล่าวว่า ประเทศพร้อมจะรับมือกับความท้าทายท่ามกลางราคาน้ำมันดิบราคาต่ำโดยเป็นความตั้งใจของบริษัทที่จะทำอย่างนี้ (with a Firm will)
- ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก VIX index ที่เป็นดัชนีวัดความผันผวนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเมื่อวานนี้ และอยู่ในแนวโน้มในทางขึ้น บ่งบอกถึง ความกังวลที่มีมากในตลาดหุ้น ประเด็นหลักมาจากเรื่องน้ำมันดิบที่ลงแรง บ่งบอกถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และ แรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน เพราะ จะทำให้ Valuation ของกลุ่มนี้แย่ลงไปในทันที แต่จริงๆแล้วราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงนั้นเป็นผลดี ต่อทั้งการบริโถคของประชาชนต้นทุนการทำอะไรต่างๆที่ลดลง
- แรงขายออกมาจาก SPDR ค่อนข้างมาก 0.42% สู่ระดับ 707.82 ตันระดับต่ำสุดใหม่ในรอบ 6 ปี
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17.00 EUR
CPI Flash Estimate 0.0% 0.3%
20.15 USD
ADP non-farm employment change 227K 208K
2.00 USD
FOMC Meeting minutes