บทวิเคราะห์

ย้อนกลับ

บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 25 พ.ย. 2557

แนวทางทองคำวันที่ 25-11-57

เเนวรับ 1195 1190 1180 เเนวต้าน 1205 1207 1215

ราคาทองคำยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ ระหว่าง 1190-1200 ตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้ ทั้งนี้ด้วยปัจจัยข่าวที่น้อย จึงคาดว่าทองคำจะยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบไปอีกสักพักหนึ่ง โดยมีแนวต้านสำคัญบริเวณ 1202-1207 ทั้งโซน ภาพวันเริ่มมีมุมมองในทางบวกมากขึ้นหลังจากล่าสุด EMA 8 ตัดผ่าน EMA 21 ขึ้นมา ทำให้มองว่า ทองคำเริ่มมีสัญญาณทางบวกขึ้นมาอยู่พอสมควรในระยะสั้นนี้ โดยมีจุดเปลี่ยนแนวโน้มบริเวณ 1190 ที่หากหลุดจะทำให้ราคากลับไปอยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ยทั้งสองเส้นอีกครั้ง รวมถึง หลุดแนวรับใหญ่ในระยะสั้นยังมองราคาลงมาทดสอบด้านล่างอีกรอบหนึ่งบริเวณโซน 1190 และมาหาสัญญาณว่า จะมีการกลับตัวเกิดขึ้นหรือไม่ หากราคาปิดหลุด 1190 จะเริ่มมองลบแล้ว 

ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,470 ล้านบาท เป็นการซื้อวันที่ 2 ต่อเนื่องกัน ขณะที่กลับมา Long สุทธิในฟิวเจอร์อย่างหนักร่วม 8,200 สัญญา พร้อมกับกองทุนที่ซื้อและเปิดสถานะ Long ในฟิวเจอร์เช่นเดียวกัน มุมมองของ SET หลังจากเมื่อวานรับข่าวจีนลดดอกเบี้ยและปรับขึ้นแรง ยังมีมุมมองในทางบวกอยู่ เพียงแต่ให้ระมัดระวังแรงขายระยะสั้น ค่าเงินบาทแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยแต่ยังมองการแข็งค่าเป็นไปอย่างจำกัดและอาจจะกลับไปอ่อนค่าได้ ยังดูในกรอบสั้นๆระหว่าง 32.60-33.00

ทางเลือกหลัก : มองราคายังอยู่ในกรอบสั้นๆ โดยมีจุดที่น่าสนใจซื้อบริเวณ 1190 พร้อมทั้งตั้งจุดตัดขาดทุน เพราะ มุมมองเริ่มเป็นบวกมากขึ้น ในขณะที่หากหลุด 1190 อาจจะมีการเปลี่ยนแนวโน้มได้

ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวขึ้นไปเลยเกินกว่า 1200 มองว่าจะไปทดสอบ 1207 ทันที

รายละเอียด

- ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2557 นี้จะมีการประชุม OPEC ในเรื่องของการตัดสินใจว่าจะลดกำลังการผลิตน้ำมันลงหรือไม่ หลังจากราคาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ความต้องการที่ลดน้อยลง ขณะที่กำลังการผลิตเท่าเดิม สาเหตุที่ความต้องการน้อยลงมาจากเทคโนโลยี Shale gas ของอเมริกาที่เข้ามาแทนที่น้ำมันดิบ และ เกมการเมืองของประเทศ OPEC ที่ไม่ต้องการให้ราคาน้ำมันสูงเกินไป เพราะ จุดนี้เป็นจุดที่คุ้มทุนอยู่แล้ว หากต่ำกว่านี้ก็ยังคุ้มทุน และหากเมื่อราคาสูงขึ้นไปก็จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆมาทำให้การขายน้ำมันดิบจะยากขึ้น ทำให้ตลาดติดตามว่า OPEC จะลดกำลังการผลิตลงหรือไม่ ตามคาดการณ์กันว่า หากไม่ลดเลย ราคาน้ำมันก็จะลงต่อไป หากลดเล็กน้อย ราคาจะพอทรงตัวได้ระดับนี้ถึงปรับตัวขึ้นเล็กน้อย และหากลดมากหน่อย คาดว่าราคาน้ำมันดิบจะกลับขึ้นไปสู่บริเวณ $90-95 ต่อบาร์เรลได้ กระแสในตอนนี้คาดว่าจะลดกำลังการผลิตลงเล็กน้อย

- ราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำจะเป็นประโยชน์ต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจาก น้ำมันดิบเป็นต้นทุนของการดำเนินงานหลายอย่าง รวมถึง การใช้จ่ายของผู้บริโถคที่จะเพิ่มขึ้นจากการเติมน้ำมันถูกลง อีกมุมหนึ่งคือ ราคาน้ำมันดิบที่ลงจะทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อออกมาน้อยนั่นเอง แต่เมื่อมาชั่งน้ำหนักกันหลายคนอยากให้ราคาน้ำมันดิบลงมากกว่า

- มีความเห็นต่างๆจากนักวิเคราะห์ที่ให้สัมภาษณ์กับ CNBC เกี่ยวกับการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของ FED ซึ่งต่างคนก็ต่างความคิด มีมุมมองที่น่าสนใจคือ FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังไม่แข็งแรงนัก สาเหตุที่รีบขึ้น เพราะไม่อยากให้ดอกเบี้ยคงอยู่ระดับต่ำ และต้องการดูทีท่าตลาดว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนอีกความเห็นหนึ่งก็มองว่า ประเทศที่จะกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยคือ เอเชีย อย่างเช่น จีน ฮ่องกง มาเลเซีย เนื่องจาก การเกินดุลบัญชีลดลงเรื่อยๆ

- ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมัน (Ifo) ปรับตัวเพิ่มขึ้น สู่ระดับ 104.7 หลังจากหดตัวมาน้อยลงตลอดในช่วง 6 เดือน เป็นสัญญาณที่ดีขึ้น

- Hedge fund เพิ่มสถานะ Bullish bet ในทองคำเพิ่มอีก 50% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และ สถานะ Short สุทธิไปอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

20.30 USD 

Prelim GDP 3.3% 3.5%

22.00 USD

CB Consumer confidence 95.9 94.5