บทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 3 พ.ย. 2557
แนวทางทองคำวันที่ 3-11-57
เเนวรับ 1160 1155 1150 เเนวต้าน 1170 1175 1180
เมื่อวันศุกร์ราคาปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญ 1180 และเป็นการปิดเดือนไปแบบไม่สวยงาม ในสัปดาห์นี้มีโอกาสปิดรอบหนึ่งให้ราคาขึ้นไปยืนบน 1180 หากไม่สามารถยืนได้จริงๆ โอกาสที่จะปรับตัวลดลงไปสร้างฐานกันใหม่แถวบริเวณ 1050-1180 มีสูงมาก ปัจจัยพื้นฐานอย่างค่าเงินดอลลาร์จะเป็นตัวกดดันต่อในอนาคต ประกอบกับ Physical demand ที่ลดน้อยลง ทำให้ปัจจัยสนับสนุนทองคำมีน้อย จึงทำให้การขึ้นรีบาวน์แต่ละรอบอาจจะเป็นไปอย่างจำกัดในระยะสั้นนี้มองราคาแกว่งตัวในกรอบ 1160-1175 (1180) มองว่า น่าจะชะลอตัวอยู่แถวนี้จนถึงปรับตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะลงต่ออีกรอบหนึ่งไปยังระดับ 1150
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเล็กน้อย 86 ล้านบาท แต่ส่งที่น่าสนใจคือ Long สุทธิในฟิวเจอร์มากถึง 9564 สัญญา และเมื่อวัดจากต้นปีตอนนี้ฝรั่งกลายเป็นสถานะ Long สุทธิไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากวันก่อนขาดอยู่ประมาณ 5000 สัญญา แสดงให้เห็นถึงทิศทางในทางบวกของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มมากขึ้น ตลาดหุ้นไทยวันก่อนปิดบวกเขียวเข้มจากผลพลอยได้อารมณ์ตลาดทางบวกจาก QQE ญี่ปุ่น และคาดว่าจะยังเดินหน้าปรับตัวสูงขึ้นได้ ค่าเงินบาทกรอบแนวต้าน 32.60 แนวโน้มอ่อนค่า
ทางเลือกหลัก : มองราคาแกว่งตัวในกรอบ 1160-1175 น่าจะเป็นในลักษณะของการชะลอตัวการปรับตัวลดลง และมองว่าหลังจากแกว่งตัวแล้วราคาจะปรับตัวลดลงต่อ
ทางเลือกรอง : ราคาขึ้นไปยืนเหนือ 1180 ได้จะทำให้ดูดีขึ้น
รายละเอียด
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 86.9 จากเดือนก่อนหน้า 86.4 ที่คาดการณ์ไว้ระดับนี้เช่นเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของอเมริกาในอนาคตเพิ่มขึ้น ตรงกับผลสำรวจของสำนักอื่นที่ตัวเลขส่วนใหญ่ของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้รายได้ส่วนบุคคลเดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 0.2% ในขณะที่คาดการณ์ 0.3% ซึ่งเป็นระดับของเดือนที่แล้ว ส่วนทางฝั่งยอดการใช้จ่ายส่วนบุคคลกลับหดตัวลง –0.2% จากคาดการณ์ 0.1% และเดือนก่อนหน้า 0.5% ตัวนี้ชี้ให้เห็นว่า ถึงแม้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะออกมามากขึ้นแต่การใช้จ่ายกลับยังคงชะลอตัวลง ซึ่งการใช้จ่ายที่ชะลอตัวลงต้องมาดูกันว่า จะชะลอตัวลงนานหลายเดือนไหม
- เมื่อวันศุกร์ BOJ ทำนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม (เพิ่มวงเงิน QQE ) ขยายปริมาณเงินจากเดิม 60-70 ล้านล้านเยนต่อปี ไปสู่ระดับ 80 ล้านเยน นอกจากนี้ยังเพิ่มขนาดการเข้าซื้อตราสารหนี้และเข้าซื้อในกองทุน REITs เพิ่มเติมอีก ว่ากันว่าการเพิ่มปริมาณเงิน QQE รอบนี้เนื่องมาจาก นาย ชินโซ อาเบะ เคยกล่าวไว้ว่า จะทำให้เงินเฟ้อเกิดปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ 2% ภายใน 2 ปีให้ได้ จนถึงปัจจุบันเงินเฟ้อก็ยังวนเวียนอยู่ที่แถวระดับ 1% กว่าๆ จึงทำให้ต้องมีการกระตุ้นเพิ่มเติมอีก นโยบายอื่นๆที่ทำประกอบกันอย่างการขึ้นภาษี VAT เพื่อต้องการห้ราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่นโยบายนี้ยังไม่ผลเต็มที่เพราะ เมื่อราคาสินค้าขึ้นคนก็ใช้จ่ายน้อยลง จึงเป็นที่มาของการอัดฉีดเงินเพิ่ม หลังจากการอัดฉีดเงินทำให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์และส่งให้ดอลลาร์ขึ้นไปทำ New-high จึงทำให้ทองคำได้รับแรงกดดันการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์และปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญ ระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขาย ราคาทองคำปรับตัวลดลงลงไปสู่ระดับ $1165 ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี (นับจากกรกฎาคม 2010)
- SPDR ยังคงลดสถานะการถือครองทองคำอย่างต่อเนื่อง ส่วนแรงซื้อ Physical demand จาก WGC (World Gold Council) ได้แสดงให้เห็นว่า Physical demand ในช่วงนี้ได้หายไปพอสมควรเมื่อเทียบกับช่วง 2-3 ปีก่อนหน้า ส่วน Hedge funds ต่างๆได้ลดสถานะ Bullish bet ลงอีกข้อมูลจาก CFCT เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
- ธปท เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนที่ผ่านมาโตขึ้น เพียงแต่โตขึ้นในระดับปานกลาง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21.00 USD
ISM manufacturing PMI 56.5 56.6